แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ตายเมาสุราเข้าทำร้ายจำเลยด้วยมือเปล่าเป็นพัลวัล คือชกจำเลยล้มแล้ว ยังต่อยและเตะซ้ำอีกหลายที ทั้งเวลาที่เกิดเหตุก็เป็นเวลากลางคืน จำเลยไม่สามารถจะทราบได้ว่า ผู้ตายมีอาวุธติดตัวมาด้วยหรือไม่ จำเลยจึงใช้มีดที่มีติดตัวไป ทำการป้องกันตัว ถูกผู้ตายในที่สำคัญ ผู้ตาย ตายดังนี้เป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
ย่อยาว
คดีได้ความว่า ในวันเกิดเหตุเวลากลางคืน ผู้ตายเมาสุราเดินมาพบจำเลยระหว่างทาง ก็ตรงเข้าชกจำเลย ผู้ตายชกจำเลยไปล้มแล้วยังต่อยและเตะซ้ำจำเลยอีกหลายครั้ง จำเลยลุกขึ้นได้จึงชักมีดออกมาผู้ตายโถมเข้าไปหาจำเลยอีก 2 ครั้ง จึงถูกมีดเป็นแผลสองแผล แผลสำคัญที่ชายโคลงทะลุใน จึงถึงแก่ความตาย โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249,53, 55 และ 59 จำคุก 3 ปี
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า แม้ผู้ตายจะเข้าทำร้ายจำเลยด้วยมือเปล่าและจำเลยใช้มีดป้องกันตัวก็ตาม แต่เวลานั้นเป็นเวลามืดค่ำแล้ว ผู้ตายเข้ามาทำร้ายเป็นพัลวัน จะมีอาวุธติดมาหรือไม่ไม่มีใครรู้ จำเลยถูกรังแกถึงเพียงนี้แล้ว มีมีดก็จำต้องใช้มีดป้องกันตัว หาเป็นการเกินสมควรแก่เหตุไม่ จึงพิพากษายืน
