แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้ปรากฏว่าคดีต้องมีการเลื่อนการพิจารณาหลายครั้ง แต่ก็เป็นเพราะเจ้าพนักงานที่ดินยังทำแผนที่พิพาทตามคำสั่งศาลชั้นต้นไม่เสร็จ โจทก์เพิ่งขอเลื่อนการพิจารณาครั้งแรกในวันที่10 พฤษภาคม 2532 เนื่องจากพยานโจทก์มีกิจธุระจำเป็นมาศาลไม่ได้และขอเลื่อนการพิจารณาเป็นครั้งที่สอง ในวันที่ 24 พฤษภาคม 2532โดยอ้างว่าทนายโจทก์ป่วย และได้ส่งใบรับรองแพทย์ต่อศาล ซึ่งทนายจำเลยทั้งสี่ไม่คัดค้าน และศาลชั้นต้นไม่ได้สงสัยว่าทนายโจทก์ไม่ป่วยจริง จึงต้องฟังว่าทนายโจทก์ป่วยตามที่อ้างการป่วยเจ็บย่อมเป็นเหตุจำเป็นอันไม่อาจก้าวล่วงเสียได้ทั้งการที่จะไม่อนุญาตให้เลื่อนการพิจารณาและถือว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบก็มีผลให้โจทก์ไม่มีโอกาสนำพยานเข้าสืบ ย่อมทำให้เสียความยุติธรรมได้ การที่ศาลชั้นต้นด้วยมีคำสั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนการสืบพยานโจทก์และถือว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบย่อมไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 40 วรรคแรก
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสี่ร่วมกันหรือแทนกันไประวังชี้แนวเขตหรือรับรองแนวเขตที่สาธารณประโยชน์ตามรูปแผนที่โฉนดของเจ้าพนักงานที่ดิน หากจำเลยทั้งสี่ไม่ไปให้ถือเอาคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลเป็นการแสดงเจตนาแทน โดยจำเลยทั้งสี่เป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย กับให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันหรือแทนกันชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 1,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสี่ให้การว่า จำเลยทั้งสี่มิได้จงใจหรือประมาทเลินเล่อ แต่ได้กระทำไปตามอำนาจหน้าที่โดยสุจริตตามกฎหมายและตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ และกระทำการไปตามหลักฐานที่ทางราชการมีอยู่ตามอำนาจหน้าที่ของกฎหมายมิได้กลั่นแกล้งโจทก์ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาว่า ที่ดินของโจทก์มีรูปที่ดินและแนวเขตที่ดินตามแผนที่ท้ายฟ้องหมายเลข 6 คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
โจทก์และจำเลยทั้งสี่อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพยานใหม่ แล้วพิพากษาตามรูปคดี
จำเลยทั้งสี่ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้แม้ปรากฏว่าต้องมีการเลื่อนการพิจารณาหลายครั้ง แต่ก็เป็นเพราะเจ้าพนักงานที่ดินยังทำแผนที่พิพาทตามคำสั่งศาลชั้นต้นไม่เสร็จ โจทก์เพิ่งขอเลื่อนการพิจารณาครั้งแรกในวันที่ 10 พฤษภาคม 2532 เนื่องจากพยานโจทก์มีกิจธุระจำเป็นมาศาลไม่ได้ และขอเลื่อนการพิจารณาเป็นครั้งที่สองในวันที่ 24 พฤษภาคม 2532 โดยอ้างว่าทนายโจทก์ป่วยและได้ส่งใบรับรองแพทย์ต่อศาลด้วย ซึ่งทนายจำเลยทั้งสี่ก็ไม่ได้คัดค้านเรื่องการป่วยของทนายโจทก์ ศาลชั้นต้นก็ไม่ได้สงสัยว่าทนายโจทก์ไม่ป่วยจริง จึงต้องฟังว่าทนายโจทก์ป่วยตามที่ทนายโจทก์อ้างจริง การป่วยเจ็บย่อมเป็นเหตุจำเป็นอันไม่อาจจะก้าวล่วงเสียได้ ทั้งการที่จะไม่อนุญาตให้เลื่อนการพิจารณาและถือว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบ ก็มีผลให้โจทก์ไม่มีโอกาสนำพยานเข้าสืบย่อมทำให้เสียความยุติธรรมได้ การที่ศาลชั้นต้นด่วนมีคำสั่งดังกล่าว ย่อมไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 40 วรรคแรก ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว
พิพากษายืน