คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3190/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำเลยรื้อถอนบ้านออกไปจากที่ดินของโจทก์และส่งมอบที่ดินแก่โจทก์ จำเลยทราบคำบังคับแล้วมิได้ปฏิบัติ โจทก์ยื่นคำร้องให้จับกุมจำเลยเพื่อให้ปฏิบัติ ตามคำบังคับ ดังนี้คดีมีข้อต้องวินิจฉัยว่าจำเลยกระทำการโดยไม่สุจริต จงใจไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาหากจำเลยกระทำการโดยสุจริตจำเลยจะสามารถปฏิบัติตามคำพิพากษาหรือไม่ ซึ่งจะต้องไต่สวนฟังพยานให้ประจักษ์ก่อนจึงจะวินิจฉัย การที่ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงแต่เพียงว่าบ้านดังกล่าวถูกเจ้าพนักงานบังคับคดียึดไว้ในคดีอื่น แล้ววินิจฉัยว่าเป็นการนอกเหนืออำนาจที่จำเลยจะปฏิบัติตามคำพิพากษาคดีนี้ได้ โดยไม่ไต่สวนฟังพยานในข้อเท็จจริงว่าจำเลยจงใจไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาหรือไม่จึงไม่ชอบ

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำเลยรื้อถอนบ้านออกไปจากที่ดินโจทก์ และส่งมอบที่ดินให้แก่โจทก์ จำเลยได้รับคำบังคับแล้ว โจทก์ยื่นคำร้องว่าจำเลยยังไม่ออกจากบ้านพิพาท และส่งมอบที่ดินคืนแก่โจทก์ ขอให้ออกหมายจับจำเลยมาเพื่อบังคับให้ปฏิบัติตามคำพิพากษา จำเลยแถลงว่าจำเลยได้ออกจากบ้านแล้วแต่รื้อบ้านไปไม่ได้เพราะถูกเจ้าหนี้ในคดีอื่นยึดบ้านดังกล่าวไปตามคำพิพากษา โจทก์แถลงว่าจำเลยบิดพลิ้วหลีกเลี่ยงการบังคับคดีตามคำพิพากษา การที่ถูกเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในคดีอื่นยึดบ้าน เป็นการกระทำโดยไม่สุจริต ศาลชั้นต้นมีความเห็นว่า เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาคดีอื่นยึดบ้านพิพาทไว้ จึงเป็นการนอกเหนืออำนาจที่จำเลยจะปฏิบัติตามคำพิพากษาในคดีนี้ได้ ถ้าจำเลยกับเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาดังกล่าวปฏิบัติไม่ชอบอย่างไร ก็ชอบที่จะฟ้องเป็นคดีใหม่

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า คดีจำต้องไต่สวนให้ปรากฏว่าการไม่ปฏิบัติตามคำบังคับของจำเลยเกิดขึ้นเพราะจำเลยพยายามบิดพลิ้วหลีกเลี่ยงการบังคับคดีหรือไม่ แต่ศาลชั้นต้นมิได้ไต่สวนมา พิพากษาให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นไต่สวนในประเด็นดังกล่าว แล้วมีคำสั่งใหม่

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นฟังได้ว่าจำเลยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดให้รื้อถอนบ้านเลขที่ 837/1 (834/1) ถนนศรีสมุทรตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ ออกไปจากที่ดินของโจทก์และส่งมอบที่ดินนั้นในสภาพปกติให้โจทก์ จำเลยได้ทราบคำบังคับของศาลแล้ว แต่มิได้รื้อบ้านออกไปและส่งมอบที่ดินแก่โจทก์ตามเวลาที่กำหนดไว้โจทก์ยื่นคำร้องให้จับกุมจำเลยเพื่อบังคับให้ปฏิบัติตามคำบังคับคดีดังกล่าว คดีจึงมีข้อต้องวินิจฉัยว่า จำเลยกระทำการโดยไม่สุจริตโดยจงใจไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา โดยหากจำเลยกระทำการโดยสุจริตจำเลยจะสามารถปฏิบัติตามคำพิพากษาหรือไม่ ซึ่งจะต้องไต่สวนฟังพยานให้ประจักษ์เสียก่อนจึงจะวินิจฉัยการที่ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงแต่เพียงว่าบ้านดังกล่าวถูกโจทก์ในคดีอื่นนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดไว้เพื่อการบังคับคดีเสียแล้ว แล้ววินิจฉัยว่า เป็นการนอกเหนืออำนาจที่จำเลยจะปฏิบัติตามคำพิพากษาคดีนี้ได้ โดยมิได้ไต่สวนฟังพยานในข้อเท็จจริงว่าจำเลยจงใจไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาหรือไม่ดังกล่าวมาจึงไม่ชอบศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน

Share