แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
โจทก์ได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุนในกิจการขนส่งภายในประเทศได้นำเรือบรรทุกน้ำมันโอชั่นนิค4 เข้ามาในประเทศโดยได้รับยกเว้นอากรขาเข้าและภาษีการค้า ภายหลังโจทก์ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนจึงมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิและประโยชน์ทั้งหมดที่ได้ให้แก่โจทก์ โจทก์จึงมิใช่ผู้ได้รับการส่งเสริม ไม่ได้รับประโยชน์ตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 227 ข้อ 37 และโจทก์ได้ขายเรือดังกล่าวไปแล้วพฤติการณ์ของโจทก์ฟังได้ว่าโจทก์มีเจตนาหลีกเลี่ยงในการเสียภาษี ไม่มีเหตุผลอันสมควรที่จะงดเงินเพิ่มหรือเบี้ยปรับ โจทก์ต้องเสียภาษีการค้าเงินเพิ่มเบี้ยปรับภาษีรายได้เทศบาลแก่กรมสรรพากรจำเลย
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า โจทก์ได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุนในกิจการขนส่งภายในประเทศตามเอกสารหมาย จ.1, จ.2 เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2512 โจทก์นำเรือบรรทุกน้ำมันโอชั่นนิค 4 เข้ามาในประเทศไทยโดยได้รับยกเว้นอากรขาเข้าและภาษีการค้า ภายหลังโจทก์ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนจึงมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิและประโยชน์ทั้งหมดที่ได้ให้แก่โจทก์ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2518 เป็นต้นไปตามเอกสารหมาย จ.4 คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่าโจทก์ต้องเสียภาษี การค้าเงินเพิ่มเบี้ยปรับภาษีรายได้เทศบาลรวม 454,698 บาท 59 สตางค์ หรือไม่ เห็นว่า ประกาศของ คณะปฏิวัติฉบับที่ 227 ลงวันที่ 18 ตุลาคม 2515 ให้ยกเลิกพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุนเพื่อกิจการอุตสาหกรรม พ.ศ. 2505 และตามประกาศฉบับดังกล่าวข้อ 37 บัญญัติให้ผู้ที่ได้รับการส่งเสริมอยู่แล้วในวันที่ประกาศของคณะปฏิวัติใช้บังคับ คงได้รับสิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในบัตรส่งเสริมและตามกฎหมายที่ใช้อยู่ก่อนวันที่ประกาศของคณะปฏิวัติใช้บังคับ แต่เมื่อโจทก์มิใช่ผู้ได้รับการส่งเสริม เพราะคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนได้มีคำสั่งให้เพิกถอนสิทธิและประโยชน์ทั้งหมดที่ได้ให้แก่โจทก์แล้ว โจทก์จึงไม่ได้รับประโยชน์ตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 227 ข้อ 37 นั้น และการที่โจทก์นำเรือโอชั่นนิค 4 เข้ามาในประเทศไทยตามใบอนุญาตใช้เรือดังกล่าวที่โจทก์จดทะเบียนไว้ต่อกรมเจ้าท่านั้นเป็นการขนส่งภายในประเทศ กล่าวคือ เป็นใบอนุญาตให้เดินเรือในเขตระหว่างกรุงเทพมหานครกับจังหวัดตราดถึงจังหวัดนราธิวาส มิใช่ใช้ในกิจกรรมขนส่งระหว่างประเทศ คำเบิกความของนายพยนต์ มากกิตติ พยานโจทก์ที่ว่า โจทก์เคยใช้เรือโอชั่นนิค 4 ขนส่งน้ำมันไปยังประเทศสิงคโปร์นั้นเลื่อนลอยไม่มีเหตุผล โจทก์ไม่ได้รับยกเว้นเสียภาษีการค้า ส่วนปัญหาเรื่องงดเพิ่มหรือลดเบี้ยปรับนั้น ปรากฏตามคำเบิกความของนายพยนต์ มากกิตติ พยานโจทก์ว่าโจทก์ได้ขายเรือโอชั่นนิค 4แก่บริษัทซิมมิทออยส์ จำกัด และเมื่อพิจารณาในข้อที่ว่าโจทก์ถูกเพิกถอนสิทธิและประโยชน์ของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนประกอบกันแล้ว น่าเชื่อว่าโจทก์ต้องการนำเรืองโอชั่นนิค 4 เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่เสียภาษี มิได้มีเจตนาแท้จริงในการขอรับการส่งเสริมการลงทุนกิจการขนส่งภายในประเทศ พฤติการณ์ของโจทก์ฟังได้ว่าโจทก์มีเจตนาหลีกเลี่ยงในการเสียภาษี ไม่มีเหตุผลอันสมควรที่จะงดเงินเพิ่มเบี้ยปรับ โจทก์ต้องเสียภาษีการค้าเงินเพิ่มเบี้ยปรับ ภาษีรายได้เทศบาลจำนวนดังกล่าวแก่จำเลย”
พิพากษายืน