คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2726/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เรื่องอายุความไม่ใช่สภาพแห่งข้อหาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา172วรรคสองโจทก์จึงไม่ต้องกล่าวในฟ้องว่าคดีโจทก์ไม่ขาดอายุความเพราะเหตุใดเมื่อจำเลยให้การต่อสู้คดีชอบที่ศาลจะต้องดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปโดยสืบพยานหลักฐานแล้วพิพากษาต่อไปตามรูปคดีศาลจะมีคำสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลยและพิพากษายกฟ้องโจทก์เพราะเหตุที่จำเลยยกเรื่องอายุความขึ้นต่อสู้ไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นกรมในรัฐบาล จำเลยที่ 1 รับราชการตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการการประถมศึกษาจังหวัดนราธิวาสจำเลยที่ 2 รับราชการตำแหน่งอาจารย์ 1 ระดับ 5 จำเลยที่ 3รับราชการตำแหน่งครู 1 ระดับ 1 จำเลยที่ 4 รับราชการตำแหน่งอาจารย์2 จำเลยที่ 5 รับราชการตำแหน่งหัวหน้าการประถมศึกษาอำเภอศรีสาครจำเลยที่ 6 รับราชการตำแหน่งครู 1 และจำเลยที่ 7 รับราชการตำแหน่งครู 2 จำเลยที่ 5 ที่ 6 และที่ 7 ได้รับแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการควบคุมและตรวจการจ้างก่อสร้างบ้านพักครู เมื่อวันที่ 28 กันยายน2526 สำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดนราธิวาสได้ทำสัญญาจ้างนายอัครเดชให้ก่อสร้างบ้านพักครู โดยผู้รับจ้างสัญญาว่าจะทำการก่อสร้างให้แล้วเสร็จบริบูรณ์มูลเหตุแห่งละเมิดและรู้ตัวผู้ทำละเมิดแล้วไม่ได้ฟ้องคดีภายใน 1 ปี ฟ้องของโจทก์ขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 5 และที่ 6 ขาดนัดยื่นคำให้การ
จำเลยที่ 7 ให้การว่า โจทก์มิได้ฟ้องคดีภายใน 1 ปี นับแต่วันรู้ถึงการทำละเมิดและรู้ตัวผู้ที่ทำละเมิด คดีจึงขาดอายุความแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา โดยผู้พิพากษาที่ได้นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นรับรองว่ามีเหตุสมควรที่จะฎีกาในข้อเท็จจริงได้
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ฎีกาว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลเจ้าหน้าที่ต้องรายงานเรื่องการละเมิดตามขั้นตอนตามระเบียบของทางราชการ โจทก์มิได้ทราบเรื่องการละเมิดในวันเดียวกันกับที่จำเลยทั้งเจ็ดทำละเมิด แม้จำเลยทั้งเจ็ดจะยกเรื่องอายุความขึ้นต่อสู้ ศาลก็ชอบที่จะกำหนดประเด็นเรื่องอายุความ และให้โอกาสโจทก์นำพยานเข้าสืบเพื่อแสดงว่าคดีของโจทก์ไม่ขาดอายุความเพราะเหตุอย่างไรต่อไป เห็นว่า เรื่องอายุความไม่ใช่สภาพแห่งข้อหาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรคสองโจทก์จึงไม่จำเป็นต้องกล่าวในฟ้องว่า คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความเพราะเหตุใด คดีนี้ฟ้องโจทก์ได้ระบุโดยชัดแจ้งซึ่งสภาพแห่งข้อหาและคำขอบังคับแล้ว จึงเป็นฟ้องที่สมบูรณ์ เมื่อจำเลยให้การต่อสู้คดีจึงชอบที่ศาลจะต้องดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป โดยสืบพยานหลักฐานแล้วพิจารณาพิพากษาไปตามรูปคดี ที่ศาลล่างทั้งสองมีคำสั่งให้งดสืบพยานโจทก์จำเลยและพิพากษายกฟ้องโจทก์มานั้นศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น
พิพากษายกคำพิพากษาศาลล่างทั้งสอง ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

Share