คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 319-320/2521

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เจ้าพนักงานตำรวจพบเห็นการกระทำความผิดซึ่งหน้า เมื่อเข้าจับกุมผู้กระทำความผิดต่อสู้ขัดขวาง กรณีเช่นนี้เจ้าพนักงานตำรวจมีอำนาจจับกุมโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งแก่ผู้ที่จะต้องถูกจับว่าเขาต้องถูกจับ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 83 วรรคแรก

ย่อยาว

คดีสองสำนวนนี้ ศาลล่างพิจารณาพิพากษารวมกัน สำนวนแรกโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่านายเล็ก สืบกระพันธ์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80 ส่วนสำนวนหลังขอให้ลงโทษฐานมีอาวุธปืนและกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 7, 72 และพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 4) มาตรา 3 ฐานพยายามฆ่าและต่อสู้ขัดขวางสิบตำรวจโทรินยา จินาชาญ เจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138, 140, 289, 80

จำเลยรับสารภาพเฉพาะข้อหามีอาวุธปืนและกระสุนปืนโดยไม่รับอนุญาตข้อหานอกนั้นปฏิเสธและต่อสู้คดี

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาลงโทษจำเลยเฉพาะฐานมีอาวุธปืนฯ จำคุก 6 เดือน ข้อหาอื่นยก

โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย ฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานและพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน

ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยไม่มีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย และไม่มีเจตนาฆ่าเจ้าพนักงาน แต่ฟังว่าจำเลยได้กระทำการต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานตำรวจผู้จับกุมจำเลยพิพากษาแก้ให้ลงโทษจำเลยฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 140 วรรคแรก ให้จำคุก (สำหรับข้อหานี้)3 เดือน นอกนั้นยืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยฎีกาขอให้ยกฟ้องโจทก์ในข้อหาต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน

ศาลฎีกาพิจารณาแล้วฟังข้อเท็จจริงว่า นายเล็กเมาสุราโต้เถียงกับจำเลยในร้านขายอาหาร สิบตำรวจโทรินยาเดินตรวจผ่านมาพบเข้าจึงเข้าไปในร้าน นายเล็กใช้เก้าอี้ทุ่มศีรษะจำเลย จำเลยชักปืนออกมายิง 2 นัด สิบตำรวจโทรินยาเข้าไปจับข้อมือจำเลยเพื่อแย่งปืนและจับกุม จำเลยไม่ยอมเกิดกอดปล้ำกันขึ้น ต่างล้มลงไปที่พื้น ปืนในมือจำเลยลั่นขึ้น 2 นัด มีคนอื่นเข้าช่วยจับ ผลที่สุดสิบตำรวจโทรินยาจับจำเลยได้พร้อมปืน จำเลยรู้จักกับสิบตำรวจโทรินยามาก่อน วันเกิดเหตุสิบตำรวจโทรินยาแต่งเครื่องแบบจำเลยทราบดีว่าผู้จับกุมจำเลยคือเจ้าพนักงานตำรวจ ส่วนที่จำเลยฎีกาเป็นข้อกฎหมายว่า สิบตำรวจโทรินยาไม่แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและขอจับกุมจำเลยก่อน ถือไม่ได้ว่าเป็นการปฏิบัติการตามหน้าที่นั้น เห็นว่าสิบตำรวจโทรินยาพบเห็นการกระทำกรณีเป็นความผิดซึ่งหน้า และเมื่อเข้าจับกุมจำเลยได้ต่อสู้ขัดขวาง ไม่ตกอยู่ในบังคับที่จะต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 83 วรรคแรก สิบตำรวจโทรินยามีอำนาจจับกุมโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งจำเลยว่าจะต้องถูกจับจะถือว่าการจับกุมของสิบตำรวจโทรินยาไม่เป็นการปฏิบัติการตามหน้าที่ดังข้อฎีกาของจำเลยหาได้ไม่ ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยข้อหานี้ชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน

Share