คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3188/2553

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เช็คเดินทางตามฟ้องโจทก์สามารถนำไปใช้จ่ายได้ หากไม่นำไปใช้ก็สามารถนำไปแลกคืนจากจำเลยได้ทันที ดังนั้น สิทธิเรียกร้องของโจทก์ย่อมเกิดขึ้นนับแต่โจทก์ซื้อเช็คเดินทางดังกล่าว อายุความจึงเริ่มนับแต่ขณะที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้เป็นต้นไป ตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/12 ความรับผิดตามสัญญาซื้อขายเช็คเดินทางดังกล่าวไม่มีกฎหมายบัญญัติอายุความไว้โดยเฉพาะจึงมีอายุความ 10 ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/30 โจทก์ฟ้องคดีเกิน 10 ปี คดีโจทก์จึงขาดอายุความ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน 33,752 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินจำนวน 33,752 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมเป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์ โดยผู้พิพากษาที่นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นรับรองว่ามีเหตุอันควรอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงได้
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมเป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ทุนทรัพย์พิพาท ชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาท ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคหนึ่ง โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่า เมื่อปี 2530 โจทก์ซื้อเช็คเดินทางจากจำเลยซึ่งเป็นตัวแทนของธนาคารเครดิตแอนด์คอมเมิร์ชอินเตอร์เนชั่นแนล (โอเวอร์ซีส์) จำกัด ตัวการซึ่งอยู่ต่างประเทศและมีภูมิลำเนาในต่างประเทศ ซึ่งเช็คเดินทางดังกล่าวสามารถนำไปใช้ได้ทันที หากไม่ได้ใช้สามารถนำไปขายคืนที่ธนาคารเครดิตแอนด์คอมเมิร์ชอินเตอร์เนชั่นแนล (โอเวอร์ซีส์) จำกัด หรือธนาคารอื่นได้ ต่อมาปี 2534 ธนาคารเครดิตแอนด์คอมเมิร์ชอินเตอร์เนชั่นแนล (โอเวอร์ซีส์) จำกัด ล้มละลาย ปี 2546 โจทก์นำเช็คเดินทางดังกล่าวไปแลกเงินคืนจากจำเลย แต่จำเลยปฏิเสธ เห็นว่า เช็คเดินทางดังกล่าวโจทก์สามารถนำไปใช้จ่ายได้หรือหากไม่ได้นำไปใช้ก็สามารถนำเช็คเดินทางดังกล่าวไปแลกคืนจากจำเลยได้ทันที ดังนั้น สิทธิเรียกร้องของโจทก์ย่อมเกิดขึ้นนับแต่โจทก์ซื้อเช็คเดินทางดังกล่าว อายุความจึงเริ่มนับแต่ขณะที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้เป็นต้นไป ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/12 และความรับผิดตามสัญญาซื้อขายเช็คเดินทางดังกล่าวไม่มีกฎหมายบัญญัติอายุความไว้โดยเฉพาะ จึงมีอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/30 โจทก์ฟ้องคดีเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2546 ซึ่งเกิน 10 ปี คดีโจทก์จึงขาดอายุความ ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษายกฟ้องโจทก์มานั้นชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share