คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3177/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในกรณีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ที่ให้ลงโทษปรับจำเลย ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
เมื่อจำเลยรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาจังหวัดเพราะขาดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิ สมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากเป็นกรรมการสุขาภิบาลแต่บังอาจ ไปยื่นใบสมัครรับเลือกตั้งจึงถือได้ว่าจำเลยได้กระทำความผิดตั้งแต่วันที่จำเลยได้ยื่นใบสมัครรับเลือกตั้งนั้นแล้ว
การสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดแปดปี เป็นการสั่งไปตามบทกฎหมายที่กำหนดไว้เช่นนั้น ไม่อาจจะใช้ดุลพินิจลดลงได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำผิดกฎหมายโดยสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาจังหวัด เขตเลือกตั้งอำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยาโดยรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เพราะจำเลยยังคงเป็นกรรมการสุขาภิบาลนครหลวงอยู่ ซึ่งต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งตามกฎหมาย ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้ง สมาชิกสภาจังหวัด พ.ศ. 2482 มาตรา 20, 64 พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2523 มาตรา 5 และสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของจำเลยมีกำหนด 8 ปี

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาจังหวัด พ.ศ. 2482 มาตรา 60 (ที่ถูกเป็นมาตรา 64) ให้ลงโทษปรับและให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดแปดปี

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ให้ลงโทษปรับจำเลยเป็นเงิน 600 บาท และให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดแปดปี ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 จึงมีปัญหามาสู่ศาลฎีกาแต่เฉพาะข้อกฎหมาย และในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายศาลฎีกาจะต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวนซึ่งมีว่า เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2523 จำเลยซึ่งในขณะนั้นยังคงดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการสุขาภิบาลนครหลวงอยู่ ได้ยื่นใบสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาจังหวัดเขตอำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเพราะขาดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากเป็นกรรมการสุขาภิบาล แต่ต่อมาในวันที่ 15 พฤษภาคม 2523 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของวันรับสมัคร จำเลยได้ลาออกจากการเป็นกรรมการสุขาภิบาล แล้ววินิจฉัยว่า เมื่อจำเลยรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง แต่บังอาจไปยื่นใบสมัครรับเลือกตั้งจึงถือได้ว่าจำเลยได้กระทำความผิดตามที่โจทก์ฟ้องตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2523 ซึ่งเป็นวันที่จำเลยได้ยื่นใบสมัครรับเลือกตั้งนั้นแล้ว และการที่ศาลล่างทั้งสองสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดแปดปี ก็เป็นการสั่งไปตามบทกฎหมายที่กำหนดไว้เช่นนั้น ไม่อาจจะใช้ดุลพินิจลดลงได้

พิพากษายืน

Share