แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์มีหน้าที่เกี่ยวกับการบริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศและบริการพูดโทรศัพท์ระหว่างประเทศ ได้มีระเบียบระบุไว้ในสมุดรายชื่อผู้ใช้โทรศัพท์ และสมุดรายชื่อผู้ใช้โทรศัพท์นั้นจำเลยได้รับแจกจากองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยทุกปี จึงถือได้ว่าจำเลยได้ทราบระเบียบหรือแจ้งความในสมุดรายชื่อผู้ใช้โทรศัพท์ว่าเครื่องโทรศัพท์ที่ติดตั้งที่บ้านจำเลยสามารถใช้พูดไปต่างประเทศได้ โดยโจทก์เป็นผู้เรียกเก็บเงินโดยตรง จำเลยอนุญาตให้ผู้เช่าบ้านใช้โทรศัพท์ที่ติดตั้งที่บ้านจำเลยโดยไม่ปรากฏว่าจำเลยได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ขององค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยหรือของโจทก์ทราบว่าให้ใช้เฉพาะภายในประเทศ ไม่ให้ใช้พูดไปต่างประเทศถือได้ว่าจำเลยยินยอมให้ผู้เช่าบ้านใช้เครื่องโทรศัพท์พูดไปต่างประเทศได้ด้วยเมื่อมีการใช้โทรศัพท์จากเครื่องโทรศัพท์ที่จำเลยเป็นผู้เช่าพูดไปต่างประเทศจำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์ ตามระเบียบที่โจทก์กำหนดไว้และจำเลยได้ทราบแล้วโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องเรียกให้จำเลยชำระค่าใช้บริการพูดโทรศัพท์ไปต่างประเทศที่ผู้เช่าบ้านของจำเลยใช้พูดจากเครื่องโทรศัพท์ที่จำเลยเช่าจากองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้วางระเบียบให้ประชาชนสามารถใช้บริการพูดวิทยุโทรศัพท์ระหว่างประเทศของโจทก์จากในประเทศไปต่างประเทศและจากต่างประเทศมาในประเทศไทยโดยใช้เครื่องโทรศัพท์ของผู้เช่าโทรศัพท์จากองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยผ่านเครื่องวิทยุโทรศัพท์ของโจทก์โดยโจทก์เรียกเก็บเงินจากผู้เช่าโทรศัพท์ดังกล่าวไม่ว่าผู้ใดจะเป็นผู้พูดก็ตามโดยคิดค่าบริการตามจำนวนมากน้อยของเวลาที่ใช้บริการพูดโทรศัพท์ระหว่างประเทศที่โจทก์กำหนดไว้ จำเลยได้เช่าเครื่องโทรศัพท์หมายเลข ๒๘๒๖๘๘๒ จากองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยในนามของจำเลยระหว่างวันที่ ๑ กันยายน ๒๕๒๔ ถึงวันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๒๔ ได้มีผู้ใช้เครื่องโทรศัพท์นั้นใช้บริการพูดโทรศัพท์ระหว่างประเทศของโจทก์รวม ๖๐ ครั้ง คิดเป็นเงิน ๙๖,๕๕๘ บาท จำเลยไม่ยอมชำระค่าบริการโจทก์ขอคิดดอกเบี้ยนับแต่ผิดนัดเป็นเงิน ๗,๒๔๑.๘๕ บาท รวมกับต้นเงินเป็นเงิน ๑๐๓,๗๙๙.๘๕ บาท ขอให้บังคับให้จำเลยชำระเงินดังกล่าวพร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่เคยทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการพูดโทรศัพท์จากสมุดรายนามผู้ใช้โทรศัพท์เป็นเรื่องที่โจทก์ตั้งกฎเกณฑ์เอาเองทั้งสิ้น จำเลยไม่ได้ใช้และไม่ได้ยินยอมให้ผู้อื่นใช้เครื่องโทรศัพท์หมายเลข ๒๘๒๖๘๘๒ พูดวิทยุโทรศัพท์ระหว่างประเทศ จำเลยได้รับใบแจ้งหนี้รวมเป็นเงิน ๗๑,๙๔๗ บาท จำเลยไม่ใช่ผู้ใช้บริการจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ ฟ้องโจทก์ขาดอายุความแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นพิจารณาปัญหาข้อเท็จจริงในประเด็นที่ยังไม่ได้วินิจฉัยแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยเป็นผู้เช่าเครื่องโทรศัพท์หมายเลข ๒๘๒๖๘๘๒ จากองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยติดตั้ง ณ บ้านของจำเลยซึ่งจำเลยแบ่งให้ผู้อื่นเช่า จำเลยอนุญาตให้ผู้เช่าบ้านใช้โทรศัพท์ดังกล่าวได้ด้วย ต่อมาผู้เช่าบ้านของจำเลยได้ใช้เครื่องโทรศัพท์ดังกล่าวพูดไปต่างประเทศหลายครั้งโดยใช้บริการของโจทก์จำเลยไม่ยอมชำระเงินค่าบริการ แล้ววินิจฉัยว่า จำเลยซึ่งเป็นผู้เช่าโทรศัพท์จึงต้องชำระค่าใช้บริการในการพูดโทรศัพท์ทางไกลไปต่างประเทศที่ผู้พูดจากเครื่องโทรศัพท์ที่จำเลยเป็นผู้เช่าไม่ว่าจำเลยจะเป็นผู้พูดเองหรือไม่ ทั้งนี้ตามระเบียบและข้อบังคับขององค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยที่จำเลยได้ลงชื่อรับทราบและรับผิดชอบในการที่จะชำระค่าเช่าและค่าใช้บริการโทรศัพท์ทุกประเภท เมื่อโจทก์มีหน้าที่เกี่ยวกับการบริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศและบริการพูดโทรศัพท์ระหว่างประเทศ จำเลยได้ทราบระเบียบหรือแจ้งความในสมุดรายชื่อผู้ใช้โทรศัพท์ว่า เครื่องโทรศัพท์ที่ติดตั้งที่บ้านจำเลยสามารถใช้พูดไปต่างประเทศได้โดยโจทก์เป็นผู้เรียกเก็บเงินโดยตรง จำเลยอนุญาตให้ผู้เช่าบ้านใช้โทรศัพท์ที่ติดตั้งที่บ้านจำเลย โดยไม่ปรากฏว่าจำเลยได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ขององค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยหรือของโจทก์ทราบว่าให้ใช้เฉพาะภายในประเทศ ไม่ให้ใช้พูดไปต่างประเทศ ถือได้ว่าจำเลยยินยอมให้ผู้เช่าบ้านใช้เครื่องโทรศัพท์พูดโทรศัพท์ไปต่างประเทศได้ด้วย เมื่อมีการใช้โทรศัพท์จากเครื่องโทรศัพท์ที่จำเลยเป็นผู้เช่าพูดไปต่างประเทศ จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์ ตามระเบียบที่โจทก์กำหนดไว้และจำเลยได้ทราบแล้ว โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องเรียกให้จำเลยชำระค่าใช้บริการพูดโทรศัพท์ไปต่างประเทศที่ผู้เช่าบ้านของจำเลยใช้พูดจากเครื่องโทรศัพท์ที่จำเลยเช่าจากองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยได้ ที่ศาลอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาปัญหาข้อเท็จจริงในประเด็นที่ยังไม่ได้วินิจฉัยแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดีเป็นการชอบแล้ว
พิพากษายืน.