คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3170/2543

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

แม้ผู้ประกันจะผิดสัญญาประกันไม่ส่งตัวจำเลยต่อศาลตั้งแต่วันที่ 31กรกฎาคม 2541 และศาลชั้นต้นได้สั่งปรับผู้ประกันตามสัญญาประกันไปแล้วแต่ในวันนัดพร้อมต่อมาผู้ประกันแถลงขอเลื่อนการส่งตัวจำเลยและศาลชั้นต้นก็มีคำสั่งอนุญาต ย่อมมีความหมายว่าในช่วงเวลาดังกล่าวศาลจะยังไม่บังคับผู้ประกันให้ชำระค่าปรับตามสัญญาประกันและเป็นที่เข้าใจว่าหากผู้ประกันสามารถติดต่อตามจำเลยมาส่งศาลได้ ศาลชั้นต้นย่อมสั่งลดค่าปรับให้แก่ผู้ประกัน ต่อมาเมื่อถึงวันนัดพร้อมอีกครั้งในวันที่ 2 ธันวาคม 2541 ผู้ประกันก็ยังไม่สามารถติดตามจำเลยได้และขอเลื่อนการส่งตัวอีกครั้งหนึ่ง แต่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตและสั่งว่าถือว่าผู้ประกันผิดสัญญาประกัน ให้บังคับตามสัญญาประกันโดยให้ชำระค่าปรับภายใน 1 เดือน แต่ในวันนัดพร้อมวันที่ 30 ธันวาคม 2541อันเป็นนัดสุดท้าย ผู้ประกันก็ยังมิได้ชำระค่าปรับแต่มาแถลงต่อศาลขอเลื่อนการส่งตัวจำเลยอีกซึ่งศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตและให้ผู้ประกันชำระค่าปรับภายใน 30 วัน คำสั่งดังกล่าวมีความหมายว่าให้ผู้ประกันชำระค่าปรับตามสัญญาประกันภายใน 30 วันนับแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2541อันเป็นวันที่ศาลมีคำสั่ง ดังนั้น การอุทธรณ์ของผู้ประกันถือได้ว่าเป็นการอุทธรณ์โต้แย้งคำสั่งของศาลชั้นต้นในวันที่ 30 ธันวาคม 2541 ที่ได้สั่งบังคับตามสัญญาประกันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 119
เมื่อผู้ประกันได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์2542 เนื่องจากวันที่ 30 และ 31 มกราคม 2542 เป็นวันเสาร์และวันอาทิตย์อันเป็นวันหยุดทำการงานตามปกติ อุทธรณ์ของผู้ประกันจึงมิได้ยื่นเกินกำหนด1 เดือน นับแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2541 อันเป็นวันที่ศาลชั้นต้นสั่งบังคับตามสัญญาประกันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 198 วรรคหนึ่ง

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 334, 335, 357 ระหว่างพิจารณาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ผู้ประกันประกันตัวจำเลยไป โดยทำสัญญาประกันไว้ต่อศาลว่า ในระหว่างประกันผู้ประกันจะปฏิบัติตามนัดหรือหมายเรียกของเจ้าพนักงานหรือศาล มิฉะนั้นยอมรับผิดใช้เงินจำนวน 1,000,000 บาท ในวันที่ 31 กรกฎาคม 2541 อันเป็นวันนัดสืบพยานโจทก์นัดแรก จำเลยไม่มาศาล ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าพฤติการณ์มีเหตุสงสัยว่าจำเลยหลบหนี ให้ออกหมายจับจำเลยปรับผู้ประกันให้ผู้ประกันชำระค่าปรับภายใน 1 เดือน และให้เลื่อนไปนัดพร้อมวันที่ 11กันยายน 2541 ถึงวันนัดยังจับจำเลยไม่ได้ และผู้ประกันยังไม่ชำระค่าปรับศาลชั้นต้นจึงเลื่อนไปนัดพร้อมใหม่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2541 โดยให้หมายแจ้งผู้ประกันชำระค่าปรับ ถึงวันนัดผู้ประกันแถลงว่าพยายามติดตามจำเลยแต่ยังไม่พบขอขยายระยะเวลาปรับผู้ประกันและงดการบังคับคดีอีก 3 เดือนศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าอนุญาตให้ผู้ประกันติดตามจำเลยอีก 1 เดือน ให้เลื่อนไปนัดพร้อมใหม่ วันที่ 2 ธันวาคม 2541 ถึงวันนัดผู้ประกันแถลงว่ายังไม่สามารถติดตามจำเลยได้ขอเลื่อนการส่งตัวออกไป ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าศาลได้ให้โอกาสผู้ประกันติดตามจำเลยมาหลายครั้งแล้ว ยังไม่สามารถติดตามจำเลยได้ถือว่าผู้ประกันผิดสัญญาประกัน ให้บังคับตามสัญญาประกัน ให้ชำระค่าปรับภายใน1 เดือนและให้เลื่อนไปนัดพร้อมอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 30 ธันวาคม 2541 ถึงวันนัดผู้ประกันยังไม่ได้ชำระค่าปรับและแถลงขอเลื่อนการส่งตัวจำเลยอีก ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าพฤติการณ์มีเหตุสงสัยว่าจำเลยหลบหนีให้ออกหมายจับจำเลย ให้จำหน่ายคดีชั่วคราว ไม่อนุญาตให้เลื่อนการส่งตัวจำเลย ให้ผู้ประกันชำระค่าปรับภายใน 30 วัน

ผู้ประกันอุทธรณ์ขอให้ลดค่าปรับ

ศาลอุทธรณ์ภาค 1 วินิจฉัยว่า ศาลชั้นต้นสั่งปรับผู้ประกันเมื่อวันที่ 31กรกฎาคม 2541 ผู้ประกันไม่ได้ยื่นคำร้องขอลดค่าปรับ การขอเลื่อนการส่งตัวจำเลยไม่ถือว่าเป็นการขอลดค่าปรับ การอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งปรับผู้ประกัน ต้องอุทธรณ์ภายใน 1 เดือนนับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง ผู้ประกันอุทธรณ์คำสั่งเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2542 จึงเกินกำหนด 1 เดือนนับแต่วันที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งปรับผู้ประกัน อุทธรณ์ของผู้ประกันจึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 198 วรรคหนึ่ง พิพากษายกอุทธรณ์ของผู้ประกัน

ผู้ประกันฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า อุทธรณ์ของผู้ประกันยื่นเกินกำหนด 1 เดือนต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 198 วรรคหนึ่ง หรือไม่ เห็นว่า ในอุทธรณ์ของผู้ประกันระบุไว้ชัดแจ้งว่า ผู้ประกันขอยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งลงวันที่ 30 ธันวาคม 2541 ซึ่งศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ผู้ประกันเลื่อนการส่งตัวจำเลย ให้ผู้ประกันชำระค่าปรับภายใน 30 วัน แม้ผู้ประกันจะผิดสัญญาประกัน ไม่ส่งตัวจำเลยต่อศาลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2541 และศาลชั้นต้นได้สั่งปรับผู้ประกันตามสัญญาประกันไปแล้ว แต่ในวันนัดพร้อมวันที่ 2 พฤศจิกายน 2541 ผู้ประกันแถลงขอเลื่อนการส่งตัวจำเลยเนื่องจากจำเลยหลบหนีไปอยู่ที่ประเทศลาว ศาลชั้นต้นก็มีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ประกันติดตามจำเลยอีก 1 เดือน ย่อมมีความหมายว่าในช่วงเวลาที่ศาลอนุญาตให้ผู้ประกันติดตามจำเลย ศาลจะยังไม่บังคับผู้ประกันให้ชำระค่าปรับตามสัญญาประกันและเป็นที่เข้าใจว่า หากผู้ประกันสามารถติดตามจำเลยมาส่งศาลได้ ศาลชั้นต้นย่อมสั่งลดค่าปรับให้แก่ผู้ประกัน แม้ในวันนัดพร้อมวันที่ 2 ธันวาคม 2541นัดต่อมาผู้ประกันยังไม่สามารถติดตามจำเลยได้ และขอเลื่อนการส่งตัวอีกครั้งหนึ่ง แต่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตและสั่งว่าถือว่าผู้ประกันผิดสัญญาประกัน ให้บังคับตามสัญญาประกันโดยให้ชำระค่าปรับภายใน 1 เดือนแต่ในวันนัดพร้อมวันที่ 30 ธันวาคม 2541 อันเป็นนัดสุดท้ายนั้น ผู้ประกันก็ยังมิได้ชำระค่าปรับมาศาลแถลงขอเลื่อนการส่งตัวจำเลยอีก ศาลชั้นต้นก็มีคำสั่งว่าไม่อนุญาตให้เลื่อนการส่งตัวจำเลย ให้ผู้ประกันชำระค่าปรับภายใน 30 วัน และให้จำหน่ายคดีชั่วคราว เห็นได้ว่า คำสั่งศาลชั้นต้นในวันที่ 30 ธันวาคม 2541 มีความหมายว่าให้ผู้ประกันชำระค่าปรับตามสัญญาประกันจำนวน 1,000,000 บาท ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ 30ธันวาคม 2541 อันเป็นวันที่ศาลมีคำสั่ง การที่ผู้ประกันอุทธรณ์ว่าหลังจากศาลชั้นต้นสั่งปรับผู้ประกันตามสัญญาประกันในวันที่ 31 กรกฎาคม 2541แล้ว ผู้ประกันได้รีบขวนขวายขอถ่ายสำเนาหมายจับและรีบติดต่อประสานงานกับเจ้าพนักงานตำรวจ นำเจ้าพนักงานตำรวจออกติดตามเพื่อจับกุมจำเลยที่จังหวัดอุบลธานี จังหวัดจันทบุรีและจังหวัดแพร่ แต่ไม่พบ จนกระทั่งเดือนพฤศจิกายน 2541 จึงทราบว่าจำเลยหลบหนีไปอยู่ที่ประเทศลาว แต่ผู้ประกันก็ยังไม่ได้เพิกเฉย ได้ประสานงานกับเจ้าพนักงานตำรวจให้จับกุมจำเลยในทันทีที่จำเลยเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทย ผู้ประกันมิได้เป็นผู้ประกันเพื่อแสวงหาผลกำไร หากต้องชำระค่าปรับเต็มจำนวนถึง 1,000,000 บาทย่อมทำให้ครอบครัวเดือดร้อน ขอให้แก้ไขคำสั่งศาลชั้นต้นลดค่าปรับลงด้วย ถือได้ว่าเป็นการอุทธรณ์โต้แย้งคำสั่งของศาลชั้นต้นในวันที่ 30 ธันวาคม 2541ที่ได้สั่งบังคับตามสัญญาประกันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 119 แม้ในวันที่ 31 กรกฎาคม 2541 อันเป็นวันที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งปรับผู้ประกันเป็นครั้งแรกและให้ผู้ประกันชำระค่าปรับภายใน 1 เดือนแต่ก็ยังมิได้มีการบังคับตามสัญญาประกันเรื่อยมา จึงไม่ถือว่าวันดังกล่าวเป็นวันที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งบังคับตามสัญญาประกัน อันผู้ประกันจะต้องอุทธรณ์ภายใน 1 เดือนนับแต่วันดังกล่าว ดังที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 วินิจฉัยไว้ ทั้งการขอลดค่าปรับไม่มีกฎหมายบังคับว่าผู้ขอลดค่าปรับจะต้องยื่นคำร้องขอต่อศาลชั้นต้นก่อนคดีนี้ เมื่อผู้ประกันได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2542 เนื่องจากวันที่ 30 และ 31 มกราคม2542 เป็นวันเสาร์และวันอาทิตย์อันเป็นวันหยุดทำการงานตามปกติ อุทธรณ์ของผู้ประกันจึงมิได้ยื่นเกินกำหนด 1 เดือน นับแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2541อันเป็นวันที่ศาลชั้นต้นสั่งบังคับตามสัญญาประกันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 198 วรรคหนึ่ง ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 วินิจฉัยว่าอุทธรณ์ของผู้ประกันยื่นเกินกำหนด 1 เดือน และไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้ประกันนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของผู้ประกันฟังขึ้น”

พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้ประกันแล้วมีคำพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

Share