แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยฟ้องโจทก์ในคดีเดิมขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2499 และเบิกความในคดีดังกล่าวว่า โจทก์ออกเช็คพิพาทนำไปแลกเงินสดจากจำเลย ความจริงโจทก์ออกเช็คพิพาทเพื่อแลกเช็คฉบับอื่นที่มี ส. เป็นผู้สั่งจ่าย โดยพ. น้องชายโจทก์นำไปแลกเงินสดจากจำเลย โจทก์จึงฟ้องจำเลยคดีนี้ว่าเบิกความเท็จ เมื่อโจทก์ได้ออกเช็คพิพาทแล้วนำไปให้จำเลยเพื่อแลกเช็คของ ส.คืนมาเพราะต้องการชำระหนี้แทนพ.เช่นนี้เช็คพิพาทจึงเป็นเช็คที่โจทก์ออกเพื่อชำระหนี้แก่จำเลยข้อที่ว่าโจทก์นำเช็คไปแลกเงินสดหรือแลกเช็คอื่นจากจำเลยจึงมิใช่ข้อสำคัญในคดีดังกล่าว ดังนั้น แม้จำเลยจะเบิกความแตกต่างไปบ้างก็ไม่ทำให้การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามโจทก์ฟ้อง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานเบิกความเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 177 และให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ 117,365.56 บาทกับดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ในเงินต้น 114,900 บาทนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ ในระหว่างนัดไต่สวนมูลฟ้องศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าศาลอาญามีอำนาจพิจารณาเฉพาะคดีอาญา จึงไม่รับคดีส่วนแพ่งของโจทก์ และเมื่อไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งประทับฟ้อง จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 วรรคสอง จำคุก 3 ปีจำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้วคดีมีปัญหาจะต้องวินิจฉัยว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้องโจทก์หรือไม่ ที่โจทก์ฎีกาว่า ข้อเท็จจริงในคดีเดิมถึงที่สุดรับฟังได้ว่าโจทก์สั่งจ่ายเช็คเพื่อแลกเช็คของบริษัทสไมส์การพิมพ์ จำกัด ซึ่งสั่งจ่ายเพื่อชำระหนี้จำเลยและจำเลยต้องคืนเช็คฉบับเดิมให้โจทก์ แต่จำเลยเบิกความว่าโจทก์นำเช็คไปแลกเงินสดจากจำเลย จึงแสดงว่าจำเลยประสงค์ให้ศาลเห็นว่าเป็นคนละมูลหนี้กัน จำเลยจึงมีเจตนาให้โจทก์มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค คำเบิกความดังกล่าวของจำเลยจึงเป็นความเท็จซึ่งเป็นข้อสำคัญในคดีนั้น เห็นว่าคดีเดิมจำเลยฟ้องขอให้ลงโทษโจทก์ในคดีนี้ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 จำเลยเบิกความในคดีนั้นว่าโจทก์ออกเช็คพิพาทแล้วนำไปแลกเงินสดจากจำเลย เมื่อโจทก์เองก็เบิกความรับว่าเดิมนายไพฑูรย์ อนาศาสตร์ น้องของโจทก์ได้สลักหลังเช็คของบริษัทสไมล์การพิมพ์ จำกัด แล้วนำไปแลกเงินสดจากจำเลย โจทก์ทราบว่าธนาคารจะต้องปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คของบริษัทสไมล์การพิมพ์ จำกัด เพราะบริษัทกำลังมีปัญหาทางการเงินโจทก์จึงออกเช็คพิพาทแล้วนำไปให้จำเลยเพื่อแลกเช็คของบริษัทสไมล์การพิมพ์ จำกัด คืนมา เพราะต้องการชำระหนี้แทนนายไพฑูรย์น้องชาย ดังนั้นเช็คพิพาทจึงเป็นเช็คที่โจทก์ออกเพื่อชำระหนี้แก่จำเลย ส่วนข้อที่ว่าโจทก์นำไปแลกเงินสดหรือแลกเช็คอื่นจากจำเลยนั้นมิใช่ข้อสำคัญในคดีดังกล่าว แม้จำเลยจะเบิกความแตกต่างไปบ้างก็มิใช่ข้อสำคัญในคดี การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว”
พิพากษายืน