แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ภรรยาทำสัญญากู้เงินของเขามาและสามีได้บอกล้างสัญญาแล้ว แม้การบอกล้างของสามีจะเป็นผลทำให้สัญญานั้นตกเป็นโมฆะได้ก็แต่เฉพาะเพียงเท่าที่ผูกพันสินบริคณฑ์ตาม ป.พ.พ. มาตรา 38 เท่านั้น หาได้กระทำให้ตกเป็นโมฆะทั้งหมดไม่ เพราะหญิงมีสามีเป็นบุคคลที่บรรลุนิติภาวะแล้ว นิติกรรมที่ทำขึ้นจึงยังสมบูรณ์ผูกพันในทรัพย์สินส่วนตัวของภรรยาตาม มาตรา 37 ประกอบด้วย มาตรา 1479 ผู้ให้กู้ก็มีสิทธิที่จะบังคับเอาจากทรัพย์สินส่วนของภรรยาได้
จำเลยรับว่า ได้ลงชื่อในใบยืนเงินไว้ในฐานะผู้กู้แล้วจะขอสืบข้อเท็จจริงว่า ที่จำเลยลงชื่อไว้นั้น ได้ลงในฐานผู้ค้ำประกันไม่ได้ เป็นการสืบเถียงฝ่าฝืนเอกสารท้ายฟ้อง ต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 94
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องเรียกเงินจากจำเลยตามสัญญากู้พร้อมทั้งดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า ไม่เคยกู้เงินจากโจทก์ ใบยืมเงินตามฟ้องเป็นเรื่องเล่นแชร์เปียหวย หากจะฟังว่าจำเลยและนายไชยกู้เงินรายนี้ สามีจำเลยได้บอกล้างนิติกรรมรายนี้แล้ว
วันชี้สองสถาน ทนายโจทก์รับว่าได้รับหนังสือบอกล้างนิติกรรมจากสามีจำเลยเมื่อฟ้องคดีนี้แล้ว สามีจำเลยเป็นสามีไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ทนายจำเลยเถียงว่า เป็นสามีโดยชอบด้วยกฎหมายก่อนใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และต่อสู้ว่า โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหาย
ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์แล้วพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน ๓,๐๐๐ บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ย
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า แม้จะฟังว่า สามีจำเลยเป็นสามีที่ชอบด้วยกฎหมายและสามีจำเลยได้บอกล้างสัญญานี้แล้ว การบอกล้างของสามีจำเลยจะเป็นผลทำให้สัญญานั้นตกเป็นโมฆะได้ก็เฉพาะเพียงเท่าที่ผูกพันสินบริคณฑ์ ตาม ป.พ.พ. มาตรา ๓๘ เท่านั้น หาได้กระทำให้ตกเป็นโมฆะทั้งหมดไม่ เพราะหญิงมีสามีเป็นบุคคลที่บรรลุนิติภาวะแล้ว นิติกรรมที่ทำขึ้นจึงยังสมบูรณ์ผูกพันในทรัพย์สินส่วนตัวของจำเลยตาม มาตรา ๓๗ ประกอบด้วย มาตรา ๑๔๗๙ ฉะนั้นที่จำเลยต่อสู้ว่าสามีได้บอกล้างแล้ว แม้จะเป็นความจริง โจทก์ก็มีสิทธิที่จะบังคับเอาจากทรัพย์สินส่วนของจำเลยได้
ส่วนที่จำเลยจะนำสืบข้อเท็จจริงว่า ที่จำเลยได้ลงชื่อในใบยืนเงินไว้ในฐานะผู้กู้นั้น ที่แท้จริงได้ลงไว้ในฐานะผู้ค้ำประกันนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จะให้จำเลยนำสืบข้อเท็จจริงเช่นว่านั้น ก็เท่ากับเป็นการสืบเถียงฝ่าฝืนเอกสารท้ายฟ้อง ต้องห้าม ตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๙๔
พิพากษายืน