แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นเรียงกระทงลงโทษจำเลยที่ 1 รวม 5 กระทง จำเลยที่ 1ให้การรับสารภาพเมื่อสืบพยานไปบ้างแล้วลดโทษให้ 1 ใน 3 คงลงโทษฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ให้จำคุก 8เดือน ฐานพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก4 เดือน ฐานใช้รถที่ไม่ได้จดทะเบียนและเสียภาษี ปรับ 1,200 บาทฐานพยายามฆ่าผู้อื่นเพื่อเอาไว้ซึ่งประโยชน์อันเกิดจากการที่ตนทำผิดอย่างอื่น จำคุก 33 ปี 4 เดือน ฐานร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ จำคุก 33 ปี 4 เดือนรวมแล้วคงจำคุก67 ปี 8 เดือน กับปรับ 1,200 บาท แต่โทษจำคุกคงให้จำคุกเพียง50 ปี ตาม ป.อ. มาตรา 91(3) นั้น ถูกต้องและชอบด้วยกฎหมายแล้วกรณีไม่ใช่นับโทษและลดโทษโดยการนำโทษจำคุกตลอดชีวิตจำเลยที่ 1ที่ศาลลงโทษไว้สองกระทงรวมกันแล้วเปลี่ยนเป็นโทษจำคุก 50ปี ลดโทษลง 1 ใน 3 คงเหลือจำคุก 33 ปี 4 เดือน แล้วรวมโทษจำคุกกระทงอื่นเข้าด้วยอีกคงเป็นโทษจำคุกจำเลยที่ 1 เพียง 34 ปี4 เดือนนั้นไม่ตรงตาม ป.อ. มาตรา 91(3).(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 80, 83,91, 138, 288, 289 (2) (3) (7), 339, 340 ตรี ที่แก้ไขแล้วพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืนพ.ศ.2490 มาตรา 7, 8 ทวิ, 72, 72 ทวิ ที่แก้ไขแล้วพระราชบัญญัติรถยนต์พ.ศ.2522 มาตรา 6, 59 ริบอาวุธปืน 2 กระบอกกระสุนปืน 15 นัด ปลอกกระสุนปืน 3 ปลอก รถจักรยานยนต์ 1 คัน และย่าม1 ใบ ของกลาง
จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพทุกข้อหานอกจากความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหายและฐานต่อสู้ขัดขวาง พยายามฆ่าเจ้าพนักงานและผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ แต่เมื่อสืบพยานโจทก์ไปได้ 8 ปาก จำเลยทั้งสองขอถอนคำให้การเดิม และขอให้การรับสารภาพตามฟ้องทุกประการ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืนพ.ศ.2490 มาตรา 7, 8 ทวิ พระราชบัญญัติรถยนต์พ.ศ.2522มาตรา 6 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 80, 83, 339 วรรคสอง และวรรคสี่, 340ตรี, 288, 289 (2) (3) (7) และ 138 ลงโทษฐานร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกคนละ 1 ปี ฐานร่วมกันพาอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนโดยไม่มีใบอนุญาตพกพา จำคุกคนละ 6 เดือนฐานร่วมกันใช้รถที่ไม่ได้จดทะเบียนและเสียภาษีประจำปีปรับคนละ 1,800 บาท ฐานร่วมกันชิงทรัพย์โดยมีอาวุธและร่วมกันกระทำผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป และชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนและใช้ยานพาหนะ ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นเพื่อเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดจากการที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ลงโทษฐานร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นเพื่อเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดจากการที่ตนได้กระทำความผิดอื่นตามมาตรา 288, 289 (7) , 80, 83 ซึ่งเป็นบทหนัก จำคุกจำเลยทั้งสองตลอดชีวิต ฐานร่วมกันต่อสู้ขัดขวางและพยายามฆ่าเจ้าพนักงานและผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ลงโทษฐานร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงานและผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ตามมาตรา 288, 289 (2) (3), 80, 83 ซึ่งเป็นบทหนัก จำคุกจำเลยทั้งสองตลอดชีวิต จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพลดโทษให้ 1 ใน 3ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงลงโทษฐานร่วมกันมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน ไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตจำคุกคนละ8 เดือน ฐานร่วมกันพาอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับใบอนุญาตพกพาจำคุกคนละ 4 เดือน ฐานร่วมกันใช้รถที่ไม่ได้จดทะเบียนและเสียภาษีปรับคนละ 1,200 บาท ฐานร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นเพื่อเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดจากการที่ตนกระทำผิดอย่างอื่น จำคุกคนละ 33 ปี 4 เดือน ฐานร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ จำคุกคนละ 33 ปี 4 เดือน รวมจำคุกคนละ 67 ปี 8 เดือน และปรับคนละ 1,200 บาท กรณีของจำเลยต้องตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 (3) จึงให้จำคุกจำเลยคนละ 50 ปี และปรับคนละ 1,200 บาท ไม่ชำระค่าปรับจัดการตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 29, 30 ริบปืนพก 2 กระบอก กระสุนปืน 15 นัด ปลอกกระสุนปืน 3 ปลอกรถจักรยานยนต์ 1 คัน ย่ามผ้า 1 ใบ ของกลาง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ‘ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้เรียงกระทงลงโทษจำเลยที่ 1 รวม 5 กระทง คือเมื่อลดโทษให้ 1 ใน 3 เพราะรับสารภาพเมื่อสืบพยานโจทก์ไปบ้างแล้ว คงลงโทษฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตให้จำคุก 8 เดือน ฐานพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 4 เดือน ฐานใช้รถที่ไม่ได้จดทะเบียนและเสียภาษีปรับ 1,200 บาท ฐานพยายามฆ่าผู้อื่นเพื่อเอาไว้ซึ่งประโยชน์อันเกิดจากการที่ตนทำผิดอย่างอื่น จำคุก 33 ปี 4 เดือนฐานร่วมกันฆ่าเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ (ที่ถูกน่าจะเป็นฐานร่วมกันพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน) จำคุก 33 ปี 4 เดือนรวมแล้วคงจำคุก 67 ปี 8 เดือน กับปรับ 1,200 บาท แต่โทษจำคุกคงให้จำคุกเพียง 50 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 (3) นั้นถูกต้องและชอบด้วยกฎหมายแล้วที่จำเลยที่ 1 ฎีกาว่าศาลลงโทษจำคุกตลอดชีวิตจำเลยที่ 1 ถึงสองกระทงเมื่อรวมกันแล้วต้องเปลี่ยนเป็นโทษจำคุก 50 ปี ลดโทษลง 1 ใน 3 คงเหลือจำคุก 33 ปี 4 เดือน เมื่อรวมโทษจำคุกกระทงอื่นเข้าด้วยแล้วคงเป็นโทษจำคุกจำเลยที่ 1 เพียง 34 ปี 4 เดือนนั้นเห็นว่าไม่ตรงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 (3) ฎีกาจำเลยที่ 1 ฟังไม่ขึ้น แต่ที่ศาลล่างทั้งสองปรับบทลงโทษจำเลยทั้งสองฐานร่วมกันมีและพาอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ มาตรา 8 ทวิโดยมิได้ระบุวรรคและมิได้ปรับบทมาตรา 72 วรรคสาม, 72 ทวิ วรรคสองมาด้วยกับที่ปรับบทความผิดและปรับบทลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 ในความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นเพื่อเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดจากการที่ตนได้กระทำความผิดอื่นและฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289 (2) (3) (7) ซึ่งเป็นบทเฉพาะแล้วนั้นไม่ถูกต้อง เห็นสมควรแก้ไขเสียให้ถูกต้องด้วย
พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ มาตรา 7, 72 วรรคสาม, 8 ทวิ วรรคแรก, 72 ทวิ วรรคสอง ไม่ปรับบทความผิดและบทลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์’.