คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3143/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยยื่นคำร้องขอให้งดการบังคับคดีสำหรับหนี้ตามคำพิพากษาส่วนหนึ่ง โดยอ้างว่าจำเลยได้ชำระหนี้ด้วยการโอนหุ้นกับเงินปันผลให้แก่โจทก์ แต่โจทก์ปฏิเสธ ข้ออ้างของจำเลยดังกล่าวเป็นเรื่องที่จำเลยกระทำการนอกศาลโดยศาลมิได้รับรู้ด้วย ข้อตกลงใด ๆ นอกศาลดังกล่าวหากจะพึงมี ก็เป็นเรื่องที่จำเลยจะยกขึ้นว่ากล่าวกับโจทก์อีกส่วนหนึ่ง หาเป็นเหตุที่จำเลยจะยกขึ้นอ้างเพื่อเป็นเหตุให้ศาลมีคำสั่งให้งดการบังคับคดีได้ไม่

ย่อยาว

กรณีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ ๒ ร่วมกับจำเลยอื่นชำระหนี้ตามสัญญากู้ สัญญาเบิกเงินเกินบัญชี และสัญญาค้ำประกัน พร้อมด้วยดอกเบี้ยและค่าฤชาธรรมเนียมให้แก่โจทก์ เมื่อครบกำหนดตามระยะเวลาในคำบังคับแล้วจำเลยที่ ๒ ไม่ปฏิบัติตาม ศาลชั้นต้นออกหมายบังคับคดีและโจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลยที่ ๒ เพื่อขายทอดตลาดชำระหนี้ตามคำพิพากษา
จำเลยที่ ๒ ยื่นคำร้องว่า จำเลยที่ ๒ ได้ชำระหนี้บางส่วนให้แก่โจทก์ไปแล้วโดยมอบใบหุ้นคิดเป็นเงิน ๓,๕๕๕,๒๐๐ บาท และเงินปันผล ๑๖๔,๗๐๔.๘๓ บาท ต่อมาโจทก์อ้างว่า เงินดังกล่าวเป็นการชำระหนี้ตามทรัสต์รีซีทซึ่งเป็นหนี้รายอื่นที่ยังไม่ถึงกำหนดชำรข้ออ้างของโจทก์จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ไต่สวนและมีคำสั่งว่าให้โจทก์หักเงินจำนวนดังกล่าวออกจากหนี้ตามคำพิพากษา ส่วนที่เหลือจำเลยที่ ๒ จะชำระหนี้ให้โจทก์ต่อไป
โจทก์ยื่นคำคัดค้านว่า จำเลยที่ ๒ ได้ติดต่อทนายความของโจทก์เพื่อให้หาผู้ซื้อหุ้นของจำเลยที่ ๒ และจะนำไปชำระหนี้ตาม
ทรัสต์รีซีท แต่ขายหุ้นไม่ได้ ส่วนเงินปันผลยังไม่ถึงกำหนดชำระขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนแล้วมีคำสั่งยกคำร้องของจำเลยที่ ๒ ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้จำเลยที่ ๒ ชำระค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์โดยกำหนดค่าทนายความ ๕๐๐ บาทแทนโจทก์
จำเลยที่ ๒ ฎีกาศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามคำร้องของจำเลยที่ ๒ เป็นเรื่องที่จำเลยที่ ๒ ขอให้งดการบังคับสำหรับหนี้ตามคำพิพากษาส่วนหนึ่งโดยอ้างว่าจำเลยที่ ๒ ได้ชำระหนี้ด้วยการโอนหุ้นธนาคารมหานคร จำกัด จำนวน ๓๕,๕๕๒ หุ้น ราคา ๓,๕๕๕,๒๐๐ บาท กับเงินปันผลจำนวน ๑๖๔,๗๐๔.๘๓ บาท รวมทั้งสิ้น ๓,๗๑๙,๙๐๔.๘๓ บาทให้แก่โจทก์และโจทก์ได้ตกลงยอมรับแล้ว ซึ่งโจทก์ปฏิเสธว่าข้ออ้างของจำเลยที่ ๒ ดังกล่าวไม่เป็นความจริง ศาลฎีกาเห็นว่า ข้ออ้างของจำเลยที่ ๒ ดังกล่าวเป็นเรื่องที่จำเลยที่ ๒ กระทำการนอกศาลโดยศาลมิได้รับรู้ด้วยข้อตกลงใด ๆ นอกศาลดังกล่าวหากจะพึงมีขึ้นก็เป็นเรื่องที่จำเลยจะยกขึ้นว่ากล่าวกับโจทก์อีกส่วนหนึ่ง หาเป็นเหตุที่จำเลยที่ ๒ จะยกขึ้นอ้างเพื่อเป็นเหตุให้ศาลมีคำสั่งให้งดการบังคับคดีได้ไม่ที่ศาลล่างทั้งสองยกคำร้องของจำเลยที่ ๒ โดยอ้างเหตุว่า โจทก์มิได้ยอมรับการเสนอขอชำระหนี้ของจำเลยที่ ๒ นั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

Share