แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
แผ่นป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีรถยนต์และใบอนุญาตขับรถยนต์เป็นเอกสารคนละประเภทกัน การใช้และอ้างซึ่งเอกสารดังกล่าวต่างมีเจตนาก่อให้เกิดผลที่แตกต่างกันกล่าวคือ การใช้หรืออ้างแผ่นป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีรถยนต์ปลอมนั้นเพื่อให้ผู้อื่นเห็นว่ารถยนต์คันที่จำเลยขับเสียภาษีถูกต้อง ส่วนการใช้หรืออ้างใบอนุญาตขับรถยนต์ปลอมก็เพื่อให้เจ้าพนักงานเห็นว่าจำเลยมีความสามารถขับรถยนต์ได้ซึ่งทางราชการได้ออกใบอนุญาตให้แก่จำเลยแล้ว แม้จำเลยใช้เอกสารดังกล่าวพร้อมกันในวันเดียวกันก็ตามการกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดคนละกรรมต่างกันตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
การที่จำเลยปลอมแผ่นป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีรถยนต์แล้วนำไปติดไว้ที่รถยนต์คันเกิดเหตุนั้น เป็นการกระทำที่กระทบต่อความน่าเชื่อถือในการที่จะใช้เอกสารดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานและยังเป็นการหลีกเลี่ยงภาษีรถยนต์ให้แก่รัฐ นอกจากนี้จำเลยยังปลอมใบอนุญาตขับรถยนต์ของจำเลยหลังจากจำเลยขับรถไปเฉี่ยวชนรถยนต์ของผู้อื่นแล้วหลบหนีเพื่อให้เจ้าพนักงานตำรวจเห็นว่าจำเลยเป็นบุคคลอื่น และจำเลยมีความสามารถขับรถยนต์ได้ซึ่งทางราชการได้ออกใบอนุญาตให้ นับเป็นการกระทำที่ไม่เคารพยำเกรงต่อกฎหมาย และส่อแสดงถึงพฤติการณ์ที่ไม่สุจริตของจำเลยที่มุ่งเอาแต่ประโยชน์ส่วนตนโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายของผู้อื่นที่เกี่ยวข้อง พฤติการณ์แห่งคดีนับว่าร้ายแรง สมควรลงโทษจำคุกโดยไม่รอการลงโทษ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 264, 265, 268, 91, 33 และริบแผ่นป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีรถยนต์ปลอมและใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลตลอดชีพปลอมของกลาง กับคืนรถยนต์หมายเลขทะเบียน บ – 0335 อุทัยธานีของกลางแก่เจ้าของ
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 265, 268 วรรคแรก ฐานปลอมแผ่นป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีรถยนต์และปลอมใบอนุญาตขับรถยนต์เป็นความผิดคนละกรรม ให้ลงโทษฐานใช้เอกสารนั้น ๆ ปลอมเป็นรายกระทงไปตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 268 วรรคสอง ฐานใช้แผ่นป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีรถยนต์ปลอม จำคุก 3 ปี ฐานใช้ใบอนุญาตขับรถยนต์ปลอม จำคุก 3 ปี รวมจำคุก6 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 3 ปีริบแผ่นป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีรถยนต์ประจำปี 2542 และใบอนุญาตขับรถยนต์ปลอมของกลาง คืนรถยนต์หมายเลขทะเบียน บ – 0335อุทัยธานี ของกลางแก่เจ้าของ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำคุกจำเลยในความผิดแต่ละกระทง กระทงละ 2 ปี เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 รวมจำคุก 4 ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 2 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยมีว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียว หรือไม่ ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย จำเลยยกขึ้นอ้างในชั้นฎีกาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบด้วยมาตรา 225โดยจำเลยฎีกาสรุปได้ว่าความผิดฐานปลอมแผ่นป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีรถยนต์และความผิดฐานปลอมใบอนุญาตขับรถยนต์เพิ่งปรากฏในวันที่เจ้าพนักงานตำรวจตรวจพบ และจำเลยใช้แผ่นป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีรถยนต์และใบอนุญาตขับรถยนต์ปลอมพร้อมกันในวันเดียวกัน ศาลต้องลงโทษจำเลยฐานใช้เอกสารราชการปลอมกระทงเดียวที่ศาลลงโทษจำเลยแยกกระทงจึงเป็นการมิชอบนั้นเห็นว่า แผ่นป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีรถยนต์และใบอนุญาตขับรถยนต์เป็นเอกสารคนละประเภทกันโดยเจตนาของการปลอมการใช้และอ้างซึ่งเอกสารดังกล่าวจึงมีเจตนาก่อให้เกิดผลที่แตกต่างกันกล่าวคือ การใช้หรืออ้างแผ่นป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีรถยนต์ปลอมนั้นเพื่อให้ผู้อื่นเห็นว่ารถยนต์คันที่จำเลยขับเสียภาษีถูกต้อง ส่วนการใช้หรืออ้างใบอนุญาตขับรถยนต์ปลอมก็เพื่อให้เจ้าพนักงานเห็นว่าจำเลยมีความสามารถขับรถยนต์ได้ ซึ่งทางราชการได้ออกใบอนุญาตให้แก่จำเลยแล้ว แม้จำเลยใช้เอกสารดังกล่าวพร้อมกันในวันเดียวกันก็ตาม การกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดคนละกรรมต่างกันตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้น
ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยประการสุดท้ายมีว่ามีเหตุสมควรลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยหรือไม่ เห็นว่า การที่จำเลยปลอมแผ่นป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีรถยนต์แล้วนำไปติดไว้ที่รถยนต์คันเกิดเหตุนั้น นับเป็นการกระทำที่กระทบต่อความน่าเชื่อถือในการที่จะใช้เอกสารดังกล่าวเป็นพยานหลักฐาน และยังเป็นการหลีกเลี่ยงการเสียภาษีรถยนต์ให้แก่รัฐตามกฎหมายอีกด้วย นอกจากนี้จำเลยยังปลอมใบอนุญาตขับรถยนต์ของผู้อื่นแล้วนำไปใช้แสดงต่อเจ้าพนักงานตำรวจที่ขอตรวจสอบใบอนุญาตขับรถยนต์ของจำเลย หลังจากจำเลยขับรถไปเฉี่ยวชนรถยนต์ของผู้อื่นแล้วหลบหนี เพื่อให้เจ้าพนักงานตำรวจเห็นว่าจำเลยเป็นบุคคลอื่น และจำเลยมีความสามารถขับรถยนต์ได้ซึ่งทางราชการได้ออกใบอนุญาตให้แก่จำเลยแล้ว นับเป็นการกระทำที่ไม่เคารพยำเกรงต่อกฎหมาย และส่อแสดงถึงพฤติการณ์ที่ไม่สุจริตของจำเลยที่มุ่งเอาแต่ประโยชน์ส่วนตนโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายของผู้อื่นที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะของผู้ที่ได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์ที่แท้จริง พฤติการณ์แห่งคดีนับว่าร้ายแรง แม้ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนและจำเลยมีภาระต้องเลี้ยงดูครอบครัวดังที่กล่าวอ้างในฎีกา แต่เพื่อให้จำเลยเข็ดหลาบและเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่บุคคลอื่นที่คิดจะกระทำการเช่นจำเลย สมควรลงโทษจำคุกจำเลยโดยไม่รอการลงโทษ อีกทั้งการกระทำความผิดของจำเลยในคดีนี้มีระวางโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 ให้จำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 5 ปีศาลอุทธรณ์ใช้ดุลพินิจวางโทษจำคุกจำเลยเพียงกระทงละ 2 ปี ก่อนลดโทษให้นั้น นับว่าเป็นคุณแก่จำเลยมากอยู่แล้วที่ศาลอุทธรณ์ใช้ดุลพินิจกำหนดโทษจำคุกและไม่รอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยนั้นเหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งรูปคดีแล้ว ไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะเปลี่ยนแปลงแก้ไข ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน