คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 314/2501

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การหย่าขาดจากกันก่อนใช้ ป.พ.พ. บรรพ 5 ต้องนำ ก.ม.ลักษณะผัวเมียบทที่ 65 มาใช้บังคับ
การที่สามีภรรยาหย่ากันก่อนใช้ ป.พ.พ.บรรพ 5 โดยทำหนังสือหย่าขึ้นเพียงฉบับเดียว มีมารดาของสามีรู้เห็นขณะทำหนังสือหย่า ทั้งมีการนำหนังสือหย่าออกแสดงต่อญาติมิตร เช่นนี้ ถือว่าเป็นการหย่าขาดจากสามีภรรยากันแล้ว

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่าเมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๑ โจทก์ได้แต่งงานกับขุนกิจการลิขิต ๆ ได้นางเรณีมารดาจำเลยเป็นภรรยาอีกคนหนึ่ง เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๐ เมื่อวันที่ ๘ ม.ค. ๒๔๗๗ นางพลอยมารดาขุนกิจการลิขิตได้ยกกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดที่ ๑๐๘๗ พร้อมสิ่งปลูกสร้างให้ขุนกิจการลิขิต ทรัพย์ดังกล่าวจึงเป็นสินสมรส ต่อมาขุนกิจการลิขิตได้ใส่ชื่อจำเลยร่วมในโฉนด ต่อมาขุนกิจการลิขิตตาย โจทก์ขอรับทรัพย์สินสมรสส่วนของโจทก์ จำเลยปฏิเสธอ้างว่าขุนกิจการลิขิตได้ทำพินัยกรรมยกให้จำเลยทั้งหมดแล้ว โจทก์จึงมาฟ้องให้บังคับจำเลยแบ่งที่ดินโฉนดดังกล่าว แก่โจทก์ ๒ ส่วน ราคา ๑๐๐,๐๐๐ บาท
จำเลยให้การว่าเป็นบุตรขุนกิจการลิขิตกับนางเรณีและผู้ได้รับมรดกที่ดินที่โจทก์ฟ้อง ที่ดินพิพาทหนี้นางพลอยยกให้ขุนกิจการลิขิตภายหลังที่ขุนกิจการลิขิตได้หย่ากับโจทก์แล้ว จึงไม่มีสิทธิเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินของขุนกิจการลิขิต ๆ ลงชื่อจำเลยในโฉนด ทำถูกต้องตามกฎหมาย
ในการพิจารณา คู่ความตกลงตั้งประเด็นให้ศาลวินิจฉัยว่า โจทก์กับขุนกิจการลิขิตได้หย่าขาดจากการเป็นสามีภรรยากันโดยชอบด้วยก.ม.ลักษณะผัวเมียหรือไม่ ถ้าหย่าขาดกัน โจทก์ไม่ติดใจเรียกร้องจากจำเลย ให้ศาลยกฟ้อง ถ้าไม่ได้หย่าขาดกัน จำเลยยอมชำระเงินให้โจทก์ ๖๐,๐๐๐ บาท
ศาลชั้นต้นและ ศาลอุทธรณ์ฟังต้องกันว่า ขุนกิจการลิขิตกับโจทก์หย่าขาดจากกันแล้ว จึงพิพากษายกฟ้อง โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าโจทก์กับขุนกิจการลิขิตได้ทำหนังสือหย่ากันขึ้นหนึ่งฉบับ ลงชื่อโจทก์กับขุนกิจการลิขิต ๆ ได้นำหนังสือหย่าออกแสดงต่อญาติมิตรและนางพลอยมารดาขุนกิจการลิขิตได้รู้เห็นขณะทำหนังสือหย่าด้วย จึงเป็นหนังสือหย่าที่สมบูรณ์ตามก.ม.ลักษณะผัวเมีย บทที่ ๖๕ แล้ว พิพากษายืน

Share