แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อเช็คพิพาทมีรายการครบถ้วนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 988 แม้ธนาคารจะปฏิเสธการจ่ายเงินแล้วก็ยังเป็นเช็คตามความหมายแห่งมาตรา 987 อันจำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่ายต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คนั้นตาม มาตรา 900 เมื่อจำเลยที่ 2 เอาเช็คดังกล่าวมาแลกเงินจากโจทก์และสลักหลังมอบเช็คนั้นให้โจทก์โจทก์ย่อมเป็นผู้มีเช็คไว้ในความครอบครองในฐานเป็นผู้รับสลักหลัง โจทก์จึงเป็นผู้ทรงเช็คพิพาทตามมาตรา 904 และเมื่อเช็คดังกล่าวเป็นเช็คซึ่งสั่งให้ใช้เงินแก่ผู้ถือจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้สลักหลังย่อมเป็นประกัน(อาวัล) สำหรับจำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่ายมี ความรับผิดอย่างเดียวกับบุคคลซึ่งตนประกันตาม มาตรา 921,940 ประกอบด้วยมาตรา 989 และจะต้องร่วมกับจำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่ายรับผิดตามเช็คพิพาทต่อโจทก์ ตามมาตรา 967 ประกอบด้วย 989 แม้จำเลยที่ 2 จะสลักหลังเช็คหลังจากที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้นแล้ว ก็ไม่ทำให้จำเลยที่ 2 หลุดพ้นจากความรับผิดตามเช็คพิพาทต่อโจทก์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ออกเช็ค 2 ฉบับชำระหนี้ให้แก่จำเลยที่ 2 ต่อมาจำเลยที่ 2 เอาเช็คดังกล่าวมาชำระหนี้ให้โจทก์โดยจำเลยที่ 2 สลักหลังเช็คทั้ง 2 ฉบับดังกล่าวด้วย ต่อมาธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินจึงขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินตามเช็คทั้งสองฉบับเป็นเงิน 24,898.50 บาท
จำเลยที่ 1 ให้การว่า จำเลยที่ 1 เป็นผู้เยาว์และออกเช็คให้จำเลยที่ 2 โดยถูกหลอกลวง จึงเป็นโมฆะ เช็คฉบับหนึ่งเงิน 15,000 บาท โจทก์ทราบว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินแล้ว ยังรับเช็คไว้อีกจึงมีสิทธิเรียกร้องเอาจากจำเลยที่ 2 เท่านั้น ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 2 ให้การว่า จำเลยที่ 2 มอบเช็คให้โจทก์เป็นมัดจำที่จ้างโจทก์เพราะต้นไม้ ต่อมาโจทก์ไม่ส่งต้นไม้ให้แก่จำเลย จึงไม่มีมูลหนี้ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้เงินตามเช็คให้โจทก์พร้อมทั้งดอกเบี้ย
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยที่ 2 ฎีกาว่า โจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คตามเอกสารหมาย จ.1 เพราะจำเลยที่ 2 สลักหลังเช็คดังกล่าวแล้วมอบให้โจทก์หลังจากธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้นแล้วนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าแม้ธนาคารจะปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค เอกสารหมาย จ.1 แล้ว เช็คตามเอกสารหมาย จ.1 ซึ่งมีรายการครบถ้วนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 988 ก็ยังเป็นเช็คตามความหมายแห่งมาตรา 987 และจำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่ายจะต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คนั้นตามมาตรา 900 ประกอบด้วยมาตรา 989 เมื่อจำเลยที่ 2 เอาเช็คดังกล่าวมาแลกเงินจากโจทก์ และสลักหลังมอบเช็คนั้นให้โจทก์ โจทก์จึงเป็นบุคคลผู้มีเช็คไว้ในความครอบครองโดยฐานเป็นผู้รับสลักหลัง โจทก์ย่อมเป็นผู้ทรงเช็คเอกสารหมาย จ.1 ตามมาตรา 904 เมื่อเช็คดังกล่าวเป็นเช็คซึ่งสั่งให้ใช้เงินแก่ผู้ถือ จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้สลักหลังย่อมเป็นประกัน (อาวัล) สำหรับจำเลยที่ 1 ผู้สั่งจ่าย และมีความรับผิดเป็นอย่างเดียวกับบุคคลซึ่งตนประกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 921, 940 ประกอบด้วยมาตรา 989 และจะต้องร่วมกับจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายรับผิดตามเช็คเอกสารหมาย จ.1 ต่อโจทก์ตามมาตรา 967 ประกอบด้วยมาตรา 989 แม้จำเลยที่ 2 จะสลักหลังเช็คดังกล่าวหลังจากที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้นแล้ว ก็ไม่ทำให้จำเลยที่ 2 หลุดพ้นจากความรับผิดตามเช็คนั้นต่อโจทก์ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยที่ 2 ร่วมกับจำเลยที่ 1 รับผิดตามเช็คเอกสารหมาย จ.1 นั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยและที่จำเลยที่ 2 ฎีกาอีกข้อหนึ่งว่า โจทก์มิได้ฟ้องโดยอาศัยบันทึกการรับเงิน เอกสาร จ.2 เป็นหลักแห่งข้อหาด้วยซึ่งศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกา เพราะเป็นปัญหาเรื่องการแปลคำฟ้องนั้น เมื่อศาลฎีกาวินิจฉัยแล้วว่าจำเลยที่ 2 ต้องรับผิดตามเช็คเอกสารหมาย จ.1 ปัญหาดังกล่าวจึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัย ฎีกาของจำเลยที่ 2 ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน