คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3129/2538

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยฟ้องแย้งกระทรวงการคลังโจทก์ขอให้ยกเลิกเพิกถอนการประมูลการก่อสร้างอาคารในที่ดินราชพัสดุตามหนังสือของจังหวัดและดำเนินการเปิดประมูลใหม่เป็นคนละเรื่องกับที่โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยโดยอ้างว่าจำเลยอาศัยและปลูกอาคารอยู่ในที่ดินของโจทก์โจทก์ไม่ต้องการให้จำเลยอยู่อาศัยอีกต่อไปและให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างพร้อมขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปจากที่ดินของโจทก์จำเลยไม่ปฏิบัติตามถือได้ว่าจำเลยอยู่ในที่ดินของโจทก์โดยละเมิดทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายคำฟ้องแย้งของจำเลยจึงเป็นเรื่องอื่นซึ่งไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลโดยเป็นกระทรวงในรัฐบาลมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการเงินรวมทั้งเกี่ยวกับราชพัสดุ โดยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ราชพัสดุ ตามทะเบียนเลขที่ ตก.25 เนื้อที่ประมาณ 64 ตารางว่า ถนนหลังโครงการ 1 ตำบลหนองหลวง อำเภอเมืองตากจังหวัดตาก เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2535 ได้มีประกาศจังหวัดตากเรื่องการประมูลก่อสร้างอาคารในที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ตก. 25 ผลการประมูลปรากฏว่า นายนิเวศน์เป็นผู้ได้รับสิทธิปลูกสร้างอาคารในที่ดินราชพัสดุแปลงดังกล่าว แต่เนื่องจากจำเลยได้ปลูกสร้างอาคารอาศัยอยู่ในที่ดินดังกล่าว ซึ่งตามประกาศจังหวัดตาก ข้อ 26 โจทก์จะต้องดำเนินการให้จำเลยออกไปจากที่ดินดังกล่าวพร้อมด้วยบริวารและรื้อถอนอาคารภายใน 60 วัน โจทก์จึงบอกกล่าวให้จำเลยทราบ จำเลยเพิกเฉยจึงให้ทนายความมีหนังสือบอกกล่าวไปอีก ซึ่งจำเลยได้รับหนังสือบอกกล่าวโดยชอบแล้ว จำเลยคงเพิกเฉยเป็นการละเมิดต่อโจทก์ จึงขอคิดค่าเสียหายนับแต่วันที่ครบกำหนดตามหนังสือบอกกล่าวจนถึงวันฟ้อง เป็นเวลา 5 เดือน เดือนละ6,000 บาท รวมเป็นเงิน 30,000 บาท ขอให้บังคับจำเลยและบริวารออกจากที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียน ที่ ตก. 25ถนนหลังโครงการ 1 ตำบลหนองหลวง อำเภอเมืองตาก จังหวัดตากและรื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้างขนย้ายทรัพย์สินออกไปด้วย ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายจำนวน 30,000 บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ7.5 ต่อปี ในต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จและใช้ค่าเสียหายเดือนละ 6,000 บาท นับแต่วันฟ้องไปจนกว่าจำเลยจะรื้อถอนอาคารพร้อมสิ่งปลูกสร้างและขนย้ายทรัพย์สินออกไปจากที่ดินของโจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยครอบครองที่ดินพิพาทโดยเปิดเผยเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 30 ปี ก่อนหน้าที่กรมธนารักษ์จะมีอำนาจหน้าที่ในการดูแลจำเลยจึงมิใช่ผู้บุกรุก เอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 3 เป็นประกาศที่มีเจตนาไม่สุจริต เพราะขัดกับมติที่ประชุมของคณะกรรมการที่ราชพัสดุที่ไม่ให้ขับไล่ผู้บุกรุก การกำหนดเงื่อนไขและเวลาของผู้เข้าประมูลเป็นการตัดสิทธิจำเลย อีกทั้งเป็นการประมูลที่ดินพิพาทรายเดียว ทั้ง ๆ ที่ที่ดินแปลงอื่นก็มีปัญหา โจทก์ไม่เคยบอกให้จำเลยออกจากที่ดินพิพาท โดยที่โจทก์ยื่นฟ้องด้วยเหตุไม่ชอบดังกล่าวทำให้จำเลยได้รับความเสียหาย จึงขอถือเอาคำให้การนี้เป็นคำฟ้องแย้งของจำเลย ขอให้ยกฟ้องโจทก์ ให้ยกเลิกเพิกถอนการประมูลก่อสร้างอาคารในที่ดินราชพัสดุตามหนังสือของศาลากลางจังหวัดตาก ที่ ตก. 0003/3904 ลงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2536 เสียและดำเนินการเปิดประมูลใหม่โดยกำหนดเงื่อนไขที่เป็นธรรมไม่ตัดสิทธิของจำเลย
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับคำให้การ ส่วนฟ้องแย้งทั้งหมดรวมทั้งคำให้การข้อ 9.2 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของฟ้องแย้งไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิมจึงไม่รับ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ได้ความว่าคดีนี้โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทซึ่งจำเลยเป็นผู้อาศัยอยู่พร้อมกับได้ปลูกสร้างอาคารไว้ ต่อมาทางจังหวัดตากได้ประกาศให้มีการประมูลปลูกสร้างอาคารในที่ดินพิพาทและนายนิเวศน์ ตั้งจารีตสกุลผู้รับมอบอำนาจจากโจทก์เป็นผู้ประมูลได้ โจทก์ต้องการให้จำเลยรื้อถอนอาคารที่ได้ปลูกสร้างไว้พร้อมทั้งขนย้ายทรัพย์สินและบริวารทั้งหมดออกไป และโจทก์แจ้งให้จำเลยทราบแล้ว จำเลยเพิกเฉยการที่จำเลยยังอยู่ในที่ดินพิพาทจึงเป็นการละเมิดต่อโจทก์คือถือว่าจำเลยอยู่ในที่ดินของโจทก์โดยมิชอบ ขอให้ขับไล่จำเลยและให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย จำเลยให้การว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมโจทก์ไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาท โจทก์ไม่มีอำนาจแต่งตั้งนายนิเวศน์เพราะเคยมีข้อพิพาทกับจำเลยมาก่อน จำเลยครอบครองที่ดินพิพาทมาโดยเปิดเผยไม่น้อยกว่า 30 ปี ก่อนที่กรมธนารักษ์จะมีอำนาจหน้าที่ดูแล จำเลยจึงไม่ได้บุกรุก ประกาศที่จังหวัดตากให้มีการประมูลปลูกสร้างอาคารในที่ดินพิพาทนั้นจังหวัดตากมีเจตนาไม่สุจริตเพราะขัดกับมติที่ประชุมของคณะกรรมการที่ราชพัสดุที่ไม่ให้ขับไล่ผู้บุกรุกและการกำหนดเงื่อนไขและเวลาของผู้เข้าประมูลเป็นการตัดสิทธิจำเลยไม่ให้เป็นผู้เข้าประมูลการประมูลดังกล่าวเป็นการไม่ชอบ จึงถือเอาคำให้การดังกล่าวเป็นฟ้องแย้ง ขอให้ยกฟ้องโจทก์ ให้ยกเลิกเพิกถอนการประมูลการก่อสร้างอาคารในที่ดินพิพาทตามหนังสือของจังหวัดตากที่ ตก. 003/3904 ลงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2536 เสียและดำเนินการเปิดประมูลใหม่โดยกำหนดเงื่อนไขที่เป็นธรรมไม่ตัดสิทธิของจำเลยปัญหาวินิจิฉัยว่าชอบที่จะรับคำฟ้องแย้งไว้พิจารณาดังที่จำเลยฎีกาหรือไม่เห็นว่าที่จำเลยฟ้องแย้งขอให้ยกเลิกเพิกถอนการประมูลการก่อสร้างอาคารในที่ดินพิพาทตามหนังสือของจังหวัดตากดังกล่าวและดำเนินการเปิดประมูลใหม่นั้น เป็นคนละเรื่องกับที่โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลย เนื่องจากคำฟ้องของโจทก์อ้างว่าจำเลยอาศัยและปลูกอาคารอยู่ในที่ดินของโจทก์ โจทก์ไม่ต้องการให้จำเลยอยู่อาศัยอีกต่อไปและให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างพร้อมขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปจากที่ดินของโจทก์และได้บอกกล่าวให้จำเลยทราบแล้ว จำเลยไม่ยอมปฏิบัติตาม ถือได้ว่าจำเลยอยู่ในที่ดินของโจทก์โดยละเมิดทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ฉะนั้นคำฟ้องแย้งที่จำเลยขอให้เพิกถอนการประมูลการก่อสร้างของจังหวัดตากจึงเป็นเรื่องอื่นซึ่งไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม ส่วนประกาศของจังหวัดตากที่จำเลยยกขึ้นเป็นเหตุแห่งข้ออ้างในคำฟ้องแย้งจะชอบหรือไม่อย่างไรเป็นสิทธิของจำเลยที่ต้องนำไปฟ้องเป็นคดีใหม่ ศาลอุทธรณ์ภาค 2พิพากษายืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับฟ้องแย้งชอบแล้ว”
พิพากษายืน

Share