แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยที่1ขอให้โจทก์ออกเลตเตอร์ออฟเครดิตเพื่อสั่งซื้อไม้ซุงท่อนจากต่างประเทศจำเลยที่3มีหนังสือถึงโจทก์ขอให้ออกเลตเตอร์ออฟเครดิตแก่จำเลยที่1โดยจำเลยที่3ยินยอมรับรองตั๋วแลกเงินทุกฉบับที่ส่งมาและจะชำระเงินพร้อมค่าธรรมเนียมเมื่อถึงวันกำหนดตามเงื่อนไขที่แจ้งไว้หนังสือของจำเลยที่3ดังกล่าวมีลักษณะแห่งความผูกพันที่จำเลยที่3ยอมชำระหนี้เองไม่มีความหมายในทางว่าจะชำระหนี้ในเมื่อจำเลยที่1ไม่ชำระหนี้นั้นจึงมิใช่สัญญาค้ำประกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา680วรรคแรก เมื่อจำเลยที่3มีหนังสือขอให้โจทก์ออกเลตเตอร์ออฟเครดิตเพื่อจำเลยที่1และโจทก์ดำเนินการตามคำขอของจำเลยที่3ทั้งได้ชำระเงินแทนจำเลยที่1จนจำเลยที่1ได้รับสินค้าไปแล้วเป็นการสมประโยชน์ของจำเลยที่1และอยู่ในขอบข่ายหนังสือรับรองของจำเลยที่3จำเลยที่3ย่อมต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่1จำเลยที่3จะยกเหตุว่าผู้รับมอบสินค้าไม่ใช่กรรมการของจำเลยที่1และมิได้ลงชื่อรับมอบสินค้าให้ครบ2คนตามเงื่อนไขที่แจ้งไว้เพื่อบอกปัดการชำระหนี้หาได้ไม่ จำเลยที่3มีหน้าที่ต้องร่วมชำระหนี้แก่โจทก์แต่ผิดนัดไม่ชำระหนี้ให้จำเลยที่3จึงต้องรับผิดชำระดอกเบี้ยในระหว่างผิดนัดซึ่งโจทก์เรียกมาตามฟ้องในอัตราร้อยละ12ต่อปีจำเลยที่3มิได้ให้การโต้แย้งอัตราดอกเบี้ยเป็นอย่างอื่นต้องถือว่าจำเลยที่3ยอมรับอัตราดอกเบี้ยตามฟ้องโจทก์
ย่อยาว
โจทก์ ฟ้อง ว่า จำเลย ที่ 1 ได้ ขอให้ โจทก์ เปิด เลตเตอร์ออฟเครดิตเพื่อ สั่ง ซื้อ ไม้ซุง ท่อน จาก ผู้ขาย ใน สาธารณรัฐ ประชาธิปไตย ประชาชน ลาวโดย จำเลย ที่ 1 สัญญา ว่า เมื่อ ตัวแทน โจทก์ ใน ต่างประเทศ ได้ ส่งตั๋วแลกเงิน และ เอกสาร กำกับ สินค้า มา ให้ โจทก์ หรือ เมื่อ บัญชีเงินฝาก ของ โจทก์ ถูก หัก เนื่องจาก เลตเตอร์ออฟเครดิต แล้ว จำเลย ที่ 1จะ ชำระ เงิน ค่าสินค้า ตาม ตั๋วแลกเงิน เป็น เงิน ไทย ตาม อัตรา แลกเปลี่ยนเงิน ประจำวัน ของ ธนาคารพาณิชย์ พร้อม ด้วย ดอกเบี้ย ใน อัตรา ร้อยละ 12ต่อ ปี ค่าธรรมเนียม ค่าอากร และ ค่าใช้จ่าย ต่าง ๆ ให้ โจทก์ จน ครบจำเลย ที่ 3 มี หนังสือ รับรอง ให้ โจทก์ ไว้ ว่า จำเลย ที่ 3 ยินยอม รับรองตั๋วแลกเงิน ทุก ฉบับ ของ จำเลย ที่ 1 ที่ ออก ตาม เลตเตอร์ออฟเครดิตและ จะ ชำระ เงิน พร้อม ค่าธรรมเนียม ให้ โจทก์ เมื่อ ครบ กำหนด ตามสัญญา เลตเตอร์ออฟเครดิต ต่อมา โจทก์ จึง ได้ เปิด เลตเตอร์ออฟเครดิตจำนวน 136,800 เหรียญ สหรัฐ อเมริกา ไป ยัง ผู้ขาย ในสาธารณรัฐ ประชาธิปไตย ประชาชน ลาว หลังจาก นั้น จำเลย ที่ 1 ได้ ขอแก้ไข สัญญา หลาย ครั้ง ต่อมา จำเลย ที่ 1 โดย จำเลย ที่ 2 ได้รับ สินค้าที่ สั่ง ซื้อ แล้ว จำเลย ที่ 1 ที่ 2 และ ที่ 3 ใน ฐานะ ผู้ค้ำประกันและ ผู้รับรอง เป็น หนี้ โจทก์ ตาม สัญญา เลตเตอร์ออฟเครดิต และ ตั๋วแลกเงินจำนวน 92,898.72 เหรียญ สหรัฐ อเมริกา คิด เป็น เงิน ไทย1,901,172.30 บาท ซึ่ง ตัวแทน โจทก์ ใน ต่างประเทศ ได้ หักเงิน ใน บัญชีโจทก์ เพื่อ ชำระ ค่าสินค้า ตาม เลตเตอร์ออฟเครดิต ดังกล่าว เมื่อ วันที่29 สิงหาคม 2522 และ จำเลย ทั้ง สาม จะ ต้อง รับผิด ชำระ ดอกเบี้ย อัตราร้อยละ 12 ต่อ ปี ใน ต้นเงิน ดังกล่าว นับแต่ วันที่ 29 สิงหาคม 2522ถึง วันฟ้อง เป็น ดอกเบี้ย 2,205,151.52 บาท รวมเป็น ต้นเงินและ ดอกเบี้ย จำนวน 4,106,323.82 บาท ขอให้ บังคับ จำเลย ทั้ง สามร่วมกัน ชำระ เงิน 4,106,323.82 บาท พร้อม ดอกเบี้ย อัตรา ร้อยละ12 ต่อ ปี ใน ต้นเงิน 1,901,172.30 บาท นับแต่ วันฟ้อง เป็นต้น ไปจนกว่า จะ ชำระ เสร็จ ให้ แก่ โจทก์
จำเลย ที่ 1 และ ที่ 2 ขาดนัด ยื่นคำให้การ และ ขาดนัดพิจารณา
จำเลย ที่ 3 ให้การ ว่า จำเลย ที่ 3 ไม่เคย ขอแก้ไข หรือ ตกลงให้ จำเลย ที่ 1 ขอแก้ไข รายละเอียด ใน เลตเตอร์ออฟเครดิต แต่อย่างใดโจทก์ และ ผู้ขาย เป็น ฝ่าย ผิดสัญญา โดย ชนิด ของ สินค้า และ ราคา ที่ สั่ง มา ตามใบ กำกับ สินค้า ไม่ ตรง ตาม เงื่อนไข ใน การ ขอ เปิด เลตเตอร์ออฟเครดิตทั้ง ไม่มี เอกสาร การ รับมอบ สินค้า ซึ่ง มี บุคคล ลงนาม ตาม เงื่อนไข สำคัญ ที่จำเลย ที่ 3 ตกลง กับ โจทก์ แม้ โจทก์ จะ ชำระ เงิน ไป จำเลย ที่ 3 ก็ ไม่ต้องรับผิด ขอให้ ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้น พิจารณา แล้ว พิพากษา ให้ จำเลย ที่ 1 และ ที่ 3 ร่วมกันชำระ เงิน ให้ โจทก์ จำนวน 1,901,172.30 บาท พร้อม ด้วย ดอกเบี้ย อัตราร้อยละ 12 ต่อ ปี นับแต่ วันที่ 29 สิงหาคม 2522 จนกว่า จะ ชำระ เสร็จแก่ โจทก์ ให้ยก ฟ้องโจทก์ เกี่ยวกับ จำเลย ที่ 2
จำเลย ที่ 3 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน
จำเลย ที่ 3 ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า จำเลย ที่ 3 ฎีกา ว่า เอกสาร หมาย จ. 2เป็น เรื่อง จำเลย ที่ 3 ขอให้ โจทก์ ออก เลตเตอร์ออฟเครดิต ไม่ใช่การ ค้ำประกัน จำเลย ที่ 1 ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เมื่อ โจทก์ไม่ปฏิบัติ ตาม เงื่อนไข ที่ ระบุ ไว้ ใน เอกสาร ดังกล่าว จำเลย ที่ 3 จึงไม่ต้อง รับผิด ชำระหนี้ ต่อ โจทก์ พิเคราะห์ แล้ว เอกสาร หมาย จ. 2ที่ จำเลย ที่ 3 มี ถึง โจทก์ ปรากฏ ข้อความ ตาม คำแปล เป็น ภาษา ไทยดังนี้ “เราขอให้ ท่าน ออก เลตเตอร์ออฟเครดิต ชนิด เพิกถอน ไม่ได้ ฯลฯเป็น จำนวนเงิน 136,800 เหรียญ สหรัฐ อเมริกา โดย ออก ตั๋วแลกเงินใน นาม บัญชี ของ บริษัท เวิล์ดเทรดคอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ภูเก็ต พร้อม ด้วย เอกสาร ดัง ต่อไป นี้
– ใบ กำกับ รายการ สินค้า ที่ มี ลายเซ็น 8 ชุด
– ใบรับรอง การ รับมอบ สินค้า ซึ่ง เป็น หลักฐาน ว่า ได้รับ สินค้าแล้ว ที่ ท่านาแล้ง ลงนาม โดย 2 ใน 3 บุคคล ฯลฯ ใน การ พิจารณา การ ออก เลตเตอร์ออฟเครดิต ข้างต้น เราตกลง ยินยอม เป็น ทางการ ที่จะ รับรอง ตั๋วแลกเงิน ทุก ฉบับที่ ส่ง มา และ จะ ชำระ เมื่อ ถึง วัน กำหนด ตามเงื่อนไข ของ เครดิต นี้ พร้อม กับ ค่าธรรมเนียม ต่าง ๆ และ ใน กรณี ที่ เราละเมิด ต่อ สัญญา ท่าน มีสิทธิ ที่ จะขาย สินค้า ก่อน หรือ หลัง ที่ จะ มา ถึง ”
ตาม เอกสาร ดังกล่าว แม้ จำเลย ที่ 3 จะ ผูกพัน ตน ต่อ โจทก์ ก็ ตามแต่ ลักษณะ แห่ง ความผูกพัน เป็น เรื่อง ที่ จำเลย ที่ 3 ยอม ชำระหนี้ เองไม่มี ความหมาย ใน ทาง ว่า จะ ชำระหนี้ ใน เมื่อ จำเลย ที่ 1 ไม่ชำระ หนี้นั้น เอกสาร ดังกล่าว จึง ไม่ใช่ สัญญาค้ำประกัน ตาม ความหมาย แห่งบทบัญญัติ ของ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 680
ปัญหา ที่ ต้อง พิจารณา ต่อไป มี ว่า เมื่อ ฟัง ว่า เอกสาร หมาย จ. 2ไม่ใช่ สัญญาค้ำประกัน แล้ว จำเลย ที่ 3 ยัง จะ ต้อง รับผิด ต่อ โจทก์หรือไม่ เพียงใด เห็นว่า การ ที่ จำเลย ที่ 3 มี เอกสาร ดังกล่าว ขอให้โจทก์ ออก เลตเตอร์ออฟเครดิต เพื่อ จำเลย ที่ 1 และ โจทก์ ได้ ดำเนินการตาม คำขอ ของ จำเลย ที่ 3 ทั้ง ได้ ชำระ เงิน แทน จำเลย ที่ 1 ไป แล้วซึ่ง เป็น การ สมประโยชน์ ของ จำเลย ที่ 1 และ อยู่ ใน ขอบ ข่าย ของ เอกสารหมาย จ. 2 จำเลย ที่ 3 ย่อม ต้อง ร่วมรับผิด กับ จำเลย ที่ 1 ดัง ที่ ศาลล่างทั้ง สอง วินิจฉัย มา ที่ จำเลย ที่ 3 อ้าง มา ใน ฎีกา ว่า โจทก์ ปฏิบัติผิด เงื่อนไข ตาม เอกสาร หมาย จ. 2 กล่าว คือ โจทก์ ไม่ได้ ส่ง ใบรับรองการ รับมอบ สินค้า ที่ ลงนาม โดย 2 ใน 3 ของ บุคคล ผู้ ให้ ลายมือชื่อไว้ แก่ จำเลย ที่ 3 คง ส่ง แต่ ใบ กำกับ รายการ สินค้า ซึ่ง ลงนาม โดย บุคคลคนเดียว และ ผู้ลงลายมือชื่อ ใน เอกสาร ดังกล่าว ไม่ใช่ กรรมการ ผู้ มีอำนาจ ของ จำเลย ที่ 1 เห็นว่า แม้ ตาม เอกสาร หมาย จ. 2 จะ มี ข้อความระบุ ให้ มี ใบ กำกับ รายการ สินค้า ที่ มี ลายเซ็น 8 ชุด กับ ใบรับรองการ รับมอบ สินค้า ซึ่ง เป็น หลักฐาน ว่า ได้รับ สินค้า แล้ว ที่ ท่า นา แล้งลงนาม โดย บุคคล 2 ใน 3 คือ นาย สง่า วงศ์สวัสดิ์ นายวรชัย อิงตเดชะ นาย เอี่ยม ถาวรว่องวงศ์ การ ที่ ระบุ ไว้ เช่นนั้น ก็ เพื่อ ให้ เกิด ความ มั่นใจ แก่ จำเลย ที่ 3 ว่า ก่อน ที่ จำเลย ที่ 3 จะ ชำระ เงิน ตามคำรับ รอง เอกสาร หมาย จ. 2 จำเลย ที่ 1 ได้รับ มอบ สินค้า ตาม ที่ ขอ เปิดเลตเตอร์ออฟเครดิต ดังกล่าว แล้ว ข้อเท็จจริง ได้ความ ตาม คำเบิกความของ นาย พิพัฒน์ ใบโพธิ์วงศ์ หุ้นส่วน ผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศรีพิพัฒน์อิมปอร์ต เอ็กซ์ปอร์ต พยานโจทก์ ว่า ได้รับ ซื้อ ไม้ ที่ ส่ง มาจาก ประเทศ สาธารณรัฐ ประชาธิปไตย ประชาชน ลาว จาก จำเลย ที่ 1และ ได้ ชำระ เงิน ให้ แก่ จำเลย ที่ 1 ไป แล้ว และ ได้ มี การ นำ ไม้ จำนวนดังกล่าว ผ่าน แดนออก นอก ประเทศ ไทย ปรากฏ ตาม ใบ รับ สินค้า ขององค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ เมื่อ จำเลย ที่ 1 ได้รับ ไม้ ตามความ ประสงค์ ที่ จำเลย ที่ 3 ขอให้ โจทก์ ออก เลตเตอร์ออฟเครดิต แล้วจำเลย ที่ 3 จะ ยก เหตุ ตาม ฎีกา ที่ กล่าว ข้างต้น มา อ้าง เพื่อ บอกปัดการ ชำระหนี้ หาได้ไม่
จำเลย ที่ 3 ฎีกา ข้อ สุดท้าย ว่า เมื่อ จำเลย ที่ 3 ไม่ใช่ผู้ค้ำประกัน จำเลย ที่ 1 ต่อ โจทก์ การ ที่ จำเลย ที่ 1 ตกลง ยอม เสียดอกเบี้ย ให้ โจทก์ จำเลย ที่ 3 ไม่ต้อง ผูกพัน ด้วย พิเคราะห์ แล้ว เมื่อจำเลย ที่ 3 มี หน้าที่ ต้อง ร่วม ชำระหนี้ แก่ โจทก์ ตาม ที่ ได้ วินิจฉัยมา แล้ว และ ผิดนัด ไม่ชำระ หนี้ จำเลย ที่ 3 จึง ต้อง รับผิด ชำระ ดอกเบี้ยใน ระหว่าง ผิดนัด ต่อ โจทก์ ซึ่ง โจทก์ เรียก มา ใน ฟ้อง ใน อัตรา ร้อยละ 12ต่อ ปี และ จำเลย ที่ 3 ไม่ได้ ให้การ โต้แย้ง อัตรา ดอกเบี้ย เป็น อย่างอื่นต้อง ถือว่า จำเลย ที่ 3 ยอมรับ อัตรา ดอกเบี้ย ตาม ฟ้องโจทก์ ฎีกา จำเลยที่ 3 ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน