คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3109/2523

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กระสุนปืนไม่ใช่สิ่งที่เป็นอาวุธโดยสภาพ เมื่อโจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องว่ากระสุนปืนของกลางเป็นสิ่งซึ่งจำเลยได้ใช้ หรือเจตนาจะใช้ประทุษร้ายร่างกายถึงอันตรายสาหัสอย่างอาวุธตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1(5) การกระทำของจำเลยตามฟ้องที่บรรยายว่าจำเลยพกกระสุนของกลางไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุสมควรจึงไม่เป็นความผิดตาม มาตรา 371

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจมีเครื่องกระสุนปืน คือกระสุนปืนขนาด .๓๘ จำนวน ๑๑ นัด ใช้ยิงได้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและบังอาจพกพาเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวติดตัวไปในทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุสมควร ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา ๗, ๗๒ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๗๑ และริบกระสุนปืนของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา ๗, ๗๒ ลงโทษปรับ ๑,๒๐๐ บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงปรับ ๖๐๐ บาท ยกฟ้องข้อหาพกพาอาวุธริบของกลาง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ตามคำให้การรับสารภาพของจำเลยว่า ตามวันเวลาเกิดเหตุ จำเลยได้บังอาจพาเครื่องกระสุนปืน คือกระสุนปืนขนาด .๓๘ ของกลางไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควรจริง ปัญหามีว่าการกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๗๑ ที่โจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยหรือไม่ พิเคราะห์แล้วเห็นว่ากระสุนปืนของกลางมิใช่สิ่งซึ่งเป็นอาวุธโดยสภาพ และโจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องว่าเป็นสิ่งซึ่งจำเลยได้ใช้หรือเจตนาจะใช้ประทุษร้ายร่างกายถึงอันตรายสาหัสอย่างอาวุธตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑ (๕) การกระทำของจำเลยตามฟ้องจึงไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๗๑ ศาลล่างทั้งสองพิพากษายกฟ้องโจทก์ในข้อหาความผิดฐานนี้ชอบแล้ว
พิพากษายืน

Share