คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3106/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยกับผู้เสียหายทะเลาะวิวาทกันก่อนเกิดเหตุประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วจำเลยถือมีดปลายแหลมตามไปจะทำร้ายผู้เสียหายผู้เสียหายได้ใช้โช้กอัพ รถจักรยานยนต์ตีจำเลยแต่ไม่ถูก จำเลยจึงเข้าประชิดตัวและใช้มีดแทงผู้เสียหาย 2 ครั้ง ถูกที่ต้นแขนขวาและที่ชายโครงขวาทะลุเข้าทรวงอกมีบาดแผลขนาด 12x3x2 เซนติเมตรและ 6x2x3 เซ็นติเมตร ตามลำดับ เป็นการแทงโดยกะทันหันในเวลากลางคืนโดยจำเลยแทงสุ่ม ไปไม่มีโอกาสเลือกได้ว่าจะแทงส่วนไหนของร่างกายพฤติการณ์ดังกล่าวประกอบบาดแผลยังถือไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย คงมีความผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายสาหัส.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ใช้มีดปลายแหลมแทงนายบุญมี ไกรเนตรโดยเจตนาฆ่า แต่นายบุญมีไม่ถึงแก่ความตาย เพียงแต่ได้รับอันตรายสาหัส ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80และริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 80 ริบมีดของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาว่าการกระทำของจำเลยถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหายหรือไม่นั้น แม้จำเลยเป็นฝ่ายก่อเหตุขึ้นก่อนโดยถือมีดปลายแหลมตรงไปยังผู้เสียหายในลักษณะที่จะทำร้ายผู้เสียหายก็ตาม แต่ก่อนที่จำเลยจะแทงผู้เสียหายนั้น ผู้เสียหายได้ใช้โช้กอัพรถจักรยานยนต์ตีจำเลยเพื่อป้องกันตัวแต่ไม่ถูกจำเลยจึงเข้าประชิดตัวผู้เสียหายและใช้มีดแทงผู้เสียหาย 2 ครั้งถูกที่ต้นแขนขวา กล้ามเนื้อขาดเป็นบาดแผลขนาด 12x3x2 เซนติเมตรและถูกที่ชายโครงขวา ทะลุเข้าทรวงอกเป็นบาดแผล 6x2x3 เซนติเมตรโดยกะทันหันในเวลากลางคืน เห็นว่าจำเลยแทงสุ่มไปโดยไม่มีโอกาสจะเลือกหรือกำหนดได้ว่าจะแทงส่วนไหนของร่างกายผู้เสียหาย หากบังเอิญไปถูกที่ชายโครงขวา ทะลุเข้าทรวงอก พฤติการณ์ดังกล่าวประกอบกับบาดแผลยังไม่พอชี้ชัดว่าจำเลยมีเจตนาฆ่า จำเลยคงมีความผิดเพียงฐานทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้เสียหายรับอันตรายสาหัส
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 297 ให้จำคุก 5 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.

Share