คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3101/2541

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในการตรวจคำขอรับชำระหนี้และทำความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เสนอต่อศาลเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจเต็มที่ที่จะสอบสวนและมีความเห็นในเรื่องหนี้ที่เจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้ และศาลย่อมมีอำนาจพิจารณาสั่งตามมาตรา106 และมาตรา 107 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ. 2483 แม้มูลหนี้เดิมตามสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีจะขาดอายุความตามที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนเสนอความเห็นต่อศาลก็ตาม แต่มูลหนี้ที่เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้รายนี้โดยสภาพแห่งหนี้มิใช่หนี้ที่เจ้าหนี้จะฟ้องร้องให้บังคับคดีไม่ได้ เมื่อเจ้าหนี้ฟ้องลูกหนี้ให้ชำระเงินตามสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีและศาลชั้นต้นพิพากษาให้ลูกหนี้ชำระหนี้แก่โจทก์แล้ว ทั้งก่อนที่เจ้าหนี้จะยื่นคำขอรับชำระหนี้ เจ้าหนี้ก็ได้อาศัยหนี้ตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นฟ้องลูกหนี้ให้ล้มละลาย ลูกหนี้ก็ไม่ได้ให้การต่อสู้เป็นประเด็นไว้ว่ามูลหนี้หรือสิทธิเรียกร้องของเจ้าหนี้ขาดอายุความ จนศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่าลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว จึงมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้เด็ดขาดคดีแพ่งและคดีล้มละลายถึงที่สุดแล้ว ดังนี้ หนี้ตามคำขอรับชำระหนี้รายนี้ย่อมมิใช่หนี้ที่จะฟ้องร้องให้บังคับคดีไม่ได้จึงไม่ต้องห้ามมิให้เจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้ตามความในมาตรา 94(1) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะยกอายุความเป็นเหตุ ขอให้ยกคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้หาได้ไม่

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ (จำเลย) ทั้งสอง ไว้เด็ดขาดเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน2537 ต่อมาวันที่ 21 สิงหาคม 2539 พิพากษาให้ลูกหนี้ที่ 1 และที่ 2 ล้มละลาย เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ยื่นคำขอรับชำระหนี้ตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นเป็นเงิน 152,770.48 บาท จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ทั้งสอง
ผู้คัดค้านนัดตรวจคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 104 แล้ว ไม่มีผู้ใดโต้แย้งคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้รายนี้
ผู้คัดค้านสอบสวนแล้ว มีความเห็นว่า มูลหนี้เดิมตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นเป็นหนี้ที่ขาดอายุความ เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483มาตรา 94(1) เห็นควรให้ยกคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้
เจ้าหนี้อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
เจ้าหนี้ฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า มีปัญหาตามที่เจ้าหนี้ฎีกาสรุปใจความได้ว่า ที่ศาลล่างทั้งสองยกคำขอรับชำระหนี้ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาและเป็นเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ เนื่องจากสิทธิเรียกร้องของเจ้าหนี้ขาดอายุความแล้วชอบหรือไม่พิเคราะห์แล้ว การขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายนั้น ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 91 บัญญัติว่า “เจ้าหนี้ซึ่งจะขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายจะเป็นเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์หรือไม่ก็ตาม ต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์”และความตามมาตรา 105 บัญญัติว่า “ในการตรวจคำขอรับชำระหนี้ไม่ว่าจะเป็นหนี้ตามคำพิพากษาหรือไม่ ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีอำนาจออกหมายเรียกเจ้าหนี้ ลูกหนี้หรือบุคคลใดมาสอบสวนในเรื่องหนี้สิน แล้วทำความเห็นส่งสำนวนเรื่องหนี้สินที่ขอรับชำระนั้นต่อศาล” นัยบทบัญญัติดังกล่าวมีข้อความชัดแจ้งว่าในการตรวจคำขอรับชำระหนี้และทำความเห็นของผู้คัดค้านเสนอต่อศาลนั้น ผู้คัดค้านมีอำนาจเต็มที่ที่จะสอบสวนและมีความเห็นในเรื่องหนี้ที่เจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้ เช่น ความเห็นของผู้คัดค้านในคดีนี้ ที่มีความเห็นให้ยกคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ ศาลย่อมมีอำนาจพิจารณาสั่งตามมาตรา 106 และมาตรา 107 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 แม้จะฟังว่ามูลหนี้เดิมตามสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีจะขาดอายุความตามที่ผู้คัดค้านสอบสวนเสนอความเห็นต่อศาลก็ตาม แต่มูลหนี้รายนี้โดยสภาพแห่งหนี้มิใช่หนี้ที่เจ้าหนี้จะฟ้องร้องให้บังคับคดีไม่ได้ เมื่อเจ้าหนี้ฟ้องลูกหนี้ทั้งสองให้ชำระเงินตามสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีเมื่อวันที่12 ตุลาคม 2532 และศาลชั้นต้นพิพากษาให้ลูกหนี้ทั้งสองชำระหนี้แก่โจทก์เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2532 แล้ว ทั้งก่อนที่เจ้าหนี้จะยื่นคำขอรับชำระหนี้ตามมาตรา 91 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ. 2483 เจ้าหนี้ก็ได้อาศัยหนี้ตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นฟ้องลูกหนี้ทั้งสองให้ล้มละลาย จนศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดและพิพากษาให้ลูกหนี้ทั้งสองล้มละลายไว้แล้ว ลูกหนี้ทั้งสองไม่ได้ให้การต่อสู้เป็นประเด็นไว้ว่ามูลหนี้หรือสิทธิเรียกร้องของเจ้าหนี้ขาดอายุความ คดีนี้ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่าลูกหนี้ทั้งสองมีหนี้สินล้นพ้นตัว จึงมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้ทั้งสองเด็ดขาด ตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 ดังนั้นเมื่อหนี้ตามคำขอรับชำระหนี้รายนี้เจ้าหนี้ได้ฟ้องร้องเป็นคดีล้มละลาย และศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาดตามคำฟ้องของเจ้าหนี้จนคดีแพ่งและคดีล้มละลายถึงที่สุดแล้ว ย่อมมิใช่หนี้ที่จะฟ้องร้องให้บังคับคดีไม่ได้อันจะต้องห้ามมิให้เจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้ตามความในมาตรา 94(1) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483ผู้คัดค้านจะยกอายุความมาเป็นเหตุขอให้ยกคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้หาได้ไม่
พิพากษากลับ ให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้เป็นเงิน 152,770.48บาท ตามคำขอรับชำระหนี้ ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลให้เป็นพับ

Share