คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 31/2518

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การออกเช็คเป็นการสั่งให้ธนาคารจ่ายเงินตามจำนวนเงินและวันที่ที่ปรากฏในเช็ค ซึ่งผู้ออกเช็คอาจมีเงินจ่ายตามเช็คหรือมีเจตนาให้ใช้เงินตามเช็คแต่ละฉบับหรือไม่แตกต่างแยกจากกันได้ ดังนั้น การที่จำเลยออกเช็คหลายฉบับ แม้จะลงวันที่สั่งจ่ายวันเดียวกันและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินวันเดียวกัน ก็เป็นการกระทำผิดหลายกรรมต่างกัน ศาลต้องลงโทษจำเลยทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยออกเช็ค 3 ฉบับ ให้แก่ผู้เสียหายเพื่อเป็นการชำระหนี้ค่าซื้อพลอย เช็คทั้งสามฉบับลงวันที่สั่งจ่าย 26 มิถุนายน 2516 ผู้เสียหายนำเช็คดังกล่าวไปเข้าบัญชีธนาคารเพื่อให้เรียกเก็บเงินในวันนั้น ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คทั้งสามฉบับโดยอ้างว่าเงินในบัญชีไม่พอจ่าย ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497มาตรา 3

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้องให้เรียงกระทงลงโทษจำเลยวางโทษจำคุกจำเลยตามเช็คแต่ละฉบับ รวม 1 ปี 8 เดือน จำเลยรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลย10 เดือน

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียวตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ. 2497 มาตรา 3 ให้จำคุกจำเลย 1 ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลย 6 เดือน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จำเลยออกเช็คคราวเดียวกันสามฉบับ ลงวันที่สั่งจ่ายวันเดียวกัน ผู้เสียหายนำเช็คทั้งสามฉบับไปขึ้นเงินไม่ได้เห็นว่า การออกเช็คเป็นการสั่งให้ธนาคารจ่ายเงินตามจำนวนเงินและวันที่ที่ปรากฏในเช็ค ซึ่งผู้ออกเช็คอาจมีเงินจ่ายตามเช็ค หรือมีเจตนาให้ใช้เงินตามเช็คแต่ละฉบับหรือไม่แตกต่างแยกจากกันได้ การที่จำเลยออกเช็คหลายฉบับ และธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินดังฟ้อง จึงเป็นการกระทำผิดหลายกรรมต่างกัน ศาลต้องลงโทษจำเลยทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91

พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้เรียงกระทงลงโทษจำเลย

Share