คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2160/2551

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

จำเลยยื่นคำให้การว่าขอให้การรับสารภาพทุกข้อหาของโจทก์ แม้มิได้ระบุด้วยว่าให้การรับว่าเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดในคดีก่อนที่โจทก์อ้างขอให้บวกโทษมาในฟ้อง และโจทก์ไม่ได้นำสืบให้ปรากฏความในเรื่องนี้ก็ตาม แต่ตามคำแก้ฎีกาของจำเลยรับว่าจำเลยกระทำความผิดในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 6560/2545 ของศาลจังหวัดนครปฐมและเป็นบุคคลเดียวกับจำเลยในคดีดังกล่าว อันเป็นการยอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้บวกโทษ ศาลจึงบวกโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 6560/2545 ของศาลจังหวัดนครปฐมเข้ากับโทษในคดีนี้ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนพกลูกซองไม่ทราบขนาด 1 กระบอก และมีเครื่องกระสุนปืนลูกซองนัมเบอร์เอสจี ไม่ทราบจำนวน ซึ่งใช้ยิงได้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ จำเลยพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวติดตัวไปในซอยเทียนทะเล 22 ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล อันเป็นเมืองหมู่บ้าน และทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ และจำเลยกับพวกอีกหนึ่งคนซึ่งเป็นเยาวชนแยกดำเนินคดีต่างหากแล้ว ร่วมกันบุกรุกเข้าไปในห้องพักอันเป็นเคหสถานของ น. โดยไม่มีเหตุอันสมควร แล้วใช้อาวุธปืนดังกล่าวยิง น. ที่หน้าผากขมับด้านซ้าย โดยเจตนาฆ่าและไตร่ตรองไว้ก่อนเป็นเหตุให้ น. ถึงแก่ความตาย เจ้าพนักงานยึดได้กระสุนลูกปรายกระสุนปืนลูกซองที่จำเลยกับพวกใช้ในการกระทำความผิดเป็นของกลางก่อนคดีนี้เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2545 จำเลยเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก 6 เดือน ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครอง โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 6560/2545 ของศาลจังหวัดนครปฐมและภายในกำหนดเวลาที่ศาลรอการลงโทษดังกล่าว จำเลยกลับมากระทำความผิดในคดีนี้อีก ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 7, 8 ทวิ, 72, 72 ทวิ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 58, 83, 91, 289, 364, 365, 371 ริบของกลาง และบวกโทษจำคุกของจำเลยที่รอการลงโทษไว้ในคดีดังกล่าวเข้ากับโทษของจำเลยในคดีนี้
จำเลยให้การรับสารภาพทุกข้อหาของโจทก์
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 365, (1), (2), (3) (ที่ถูกมาตรา 365 (1) (2) (3) ประกอบมาตรา 364 และต้องปรับบทมาตรา 371 ด้วย) ประกอบมาตรา 83 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 7, 8 ทวิ วรรคหนึ่ง, 72 วรรคสาม, 72 ทวิ (ที่ถูกมาตรา 72 ทวิ วรรคสอง) การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นและร่วมกันบุกรุกเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 20 ปี ฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่เป็นของผู้อื่นซึ่งได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 3 ปี ฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 2 ปี รวมจำคุก 25 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลย 12 ปี 6 เดือน บวกโทษจำคุก 6 เดือน ที่รอการลงโทษไว้ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 6560/2545 ของศาลจังหวัดนครปฐม เข้ากับโทษจำคุกของจำเลยในคดีนี้เป็นจำคุก 12 ปี 12 เดือน ริบของกลาง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (4) ฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ให้ประหารชีวิต จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบมาตรา 52 (2) คงจำคุก 25 ปี เมื่อรวมกับโทษฐานอื่นตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้ว เป็นจำคุก 27 ปี 6 เดือน ยกคำขอให้บวกโทษ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่โจทก์ฎีกาขอให้บวกโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 6560/2545 ของศาลจังหวัดนครปฐมเข้ากับโทษในคดีนี้ นั้น เห็นว่า แม้จำเลยจะยื่นคำให้การว่าขอให้การรับสารภาพทุกข้อหาของโจทก์ โดยมิได้ระบุว่าให้การรับด้วยว่าเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดในคดีก่อนที่โจทก์อ้างขอให้บวกโทษมาในฟ้องและโจทก์ไม่ได้นำสืบให้ปรากฏความในเรื่องนี้ก็ตาม แต่ตามคำแก้ฎีกาของจำเลยรับว่าจำเลยกระทำความผิดในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 6560/2545 ของศาลจังหวัดนครปฐมและเป็นบุคคลเดียวกับจำเลยในคดีดังกล่าว อันเป็นการยอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้บวกโทษ ดังนั้น ศาลจึงบวกโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 6560/2545 ของศาลจังหวัดนครปฐมเข้ากับโทษในคดีนี้ได้ ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บวกโทษในสำนวนคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 6560/2545 ของศาลจังหวัดนครปฐมเข้ากับโทษในคดีนี้ เป็นจำคุก 27 ปี 12 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share