แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้ในคดีก่อนจำเลยจะเคยให้การต่อสู้คดีว่าจำเลยมิใช่ผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินตามฟ้องและจำเลยไม่ได้ก่อสร้างอาคารพิพาทหรือทำละเมิดต่อโจทก์ซึ่งโจทก์ฟ้องจำเลยข้อหาเช่นเดียวกับคดีนี้และจำเลยระบุในให้การคดีนี้ว่าขอถือเอาสำเนาคำให้การดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของคำให้การแก้คดีนี้ด้วยก็ตามแต่สำเนาคำให้การดังกล่าวเป็นคำให้การต่อสู้ในคดีอื่นไม่ใช่ข้อต่อสู้คดีนี้ถือได้ว่าคำให้การของจำเลยคดีนี้ไม่ได้แสดงโดยชัดแจ้งในประเด็นที่ยกขึ้นต่อสู้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา177วรรคสองจึงไม่มีประเด็นที่ศาลจะต้องวินิจฉัยให้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของและครอบครองที่ดิน น.ส.3 ก.จำเลยเป็นเจ้าของที่ดินติดกับโจทก์ เมื่อเดือนเมษายน 2533 จำเลยปลูกสร้างห้องแถวรุกล้ำเข้ามาในที่ดินโจทก์ทำให้น้ำจากห้องน้ำและน้ำฝนจากหลังคาไหลเข้ามาในที่ดินและบ้านของโจทก์ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า โจทก์เคยฟ้องจำเลยในข้อหาเดียวกันนี้และจำเลยได้ยื่นคำให้การแก้คดีไว้แล้วตามสำเนาคำให้การเอกสารท้ายคำให้การจำเลยขอถือเอาสำเนาคำให้การดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของค่าให้การแก้คดีนี้ด้วยฟ้องโจทก์เป็นฟ้องซ้อนขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์จำนวน15,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าชำระเสร็จและให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์ถ้าจำเลยไม่รื้อถอนก็ให้โจทก์รื้อถอนโดยจำเลยเป็นผู้เสียค่าใช้จ่าย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้ยกคำขอในส่วนที่ให้โจทก์รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำได้เองโดยให้จำเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายนั้นเสีย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่าศาลล่างทั้งสองมิได้วินิจฉัยประเด็น ที่จำเลยต่อสู้ว่า จำเลยมิได้เป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินตามฟ้อง และจำเลยไม่ได้ก่อสร้างอาคารพิพาทหรือทำละเมิดต่อโจทก์ เป็นการไม่ชอบนั้น เห็นว่า จำเลยไม่ได้ยกประเด็นดังกล่าวขึ้นต่อสู้ไว้ในคำให้การจำเลย แม้ข้อเท็จจริงจะฟังได้ว่าจำเลยได้ให้การต่อสู้คดีในประเด็นดังกล่าวไว้แล้วในคดีหมายเลขดำที่ 144/2534 ของศาลชั้นต้น ซึ่งโจทก์ฟ้องจำเลยข้อหาเช่นเดียวกับคดีนี้ ตามสำเนาคำให้การหมายเลข 2 ท้ายคำให้การจำเลย และจำเลยได้ระบุในคำให้การคดีนี้ว่า ขอให้ถือเอาสำเนาคำให้การหมายเลข 2 ดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของคำให้การแก้คดีนี้ด้วยก็ตาม แต่สำเนาคำให้การหมายเลข 2 ดังกล่าวเป็นคำให้การต่อสู้ในคดีอื่นไม่ใช่ข้อต่อสู้คดีนี้ ถือได้ว่าคำให้การของจำเลยคดีนี้ไม่ได้แสดงโดยชัดแจ้งในประเด็นที่ยกขึ้นต่อสู้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 177 วรรคสอง จึงไม่มีประเด็นที่ศาลจะต้องวินิจฉัยให้
พิพากษายืน