แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ที่ศาลล่างทั้งสองมิได้สั่งริบของกลาง ซึ่งเป็น ทรัพย์สินที่จำเลยใช้ในการกระทำผิดและที่ได้มาโดยได้กระทำความผิดนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วยเพราะแม้โจทก์จะไม่ได้ อุทธรณ์ฎีกาในปัญหาเรื่องของกลางก็ตาม แต่เมื่อโจทก์มี คำขอให้ริบของกลางมาแล้ว ทั้งมิใช่กรณีเพิ่มเติมโทษจำเลยก็ชอบที่จะต้องทำคำวินิจฉัยในเรื่องของกลางได้ด้วยศาลฎีกาให้ริบของกลาง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 241, 252, 264, 267, 268, 283 และริบหนังสือเดินทางใบเสร็จรับเงินกลางคลัง กระทรวงการต่างประเทศ และใบรับคำขอมีบัตรมีบัตรใหม่หรือเปลี่ยนบัตรประจำตัวประชาชน ของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานใช้เอกสารราชการปลอมตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 วรรคแรก และมีความผิดฐานแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 267 การกระทำของจำเลยดังกล่าวมีเจตนาเพียงประการเดียวเพื่อให้ได้มาซึ่งหนังสือเดินทาง จึงเป็นกรรมเดียวแต่ผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 ประกอบด้วยมาตรา 265 อันเป็นบทหนักตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุกจำเลย 3 ปี คำขอนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งลงชื่อในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยได้ไปยื่นคำร้องต่อเจ้าหน้าที่กองหนังสือเดินทาง กระทรวงการต่างประเทศเพื่อขอให้ออกหนังสือเดินทางไปต่างประเทศแก่จำเลยในนามของนายศรีสุข พรหมทัตเวที โดยจำเลยได้นำเอกสารปลอม 3 ฉบับได้แก่ใบรับคำขอมีบัตร มีบัตรใหม่ หรือเปลี่ยนบัตรประจำตัวประชาชน(ใบแทนบัตรประจำตัวประชาชน หรือใบเหลือง) ใบสำคัญ (แบบ สด.9)หรือที่เรียกว่า ใบทหารกองเกิน และสำเนาทะเบียนบ้านไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการยื่นคำร้องดังกล่าว ต่อมากระทรวงการต่างประเทศได้ออกหนังสือเดินทางและใบเสร็จรับเงินให้แก่นายศรีสุข พรหมทัตเวทีซึ่งในหนังสือเดินทางดังกล่าวได้มีรูปถ่ายของจำเลยเป็นผู้ถือหนังสือเดินทางปิดอยู่ ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยมานั้นชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้นแต่ที่ศาลล่างทั้งสองมิได้สั่งริบของกลางซึ่งเป็นทรัพย์สินที่จำเลยใช้ในการกระทำผิดและที่ได้มาโดยได้กระทำความผิดนั้นศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย เพราะแม้โจทก์จะไม่ได้อุทธรณ์ฎีกาในปัญหาเรื่องกลางก็ตาม แต่เมื่อโจทก์มีคำขอให้ริบของกลางมาแล้วทั้งมิใช่กรณีเพิ่มเติมโทษจำเลย ก็ชอบที่จะต้องทำคำวินิจฉัยในเรื่องของกลางได้ด้วย
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ริบของกลางทั้งหมด นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์