คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 307/2505

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

อ้างต้นฉบับเอกสารภาษาต่างประเทศที่บุคคลภายนอกทำขึ้นทั้งฉบับ แต่เอกสารนั้นยืดยาว จึงแปลเป็นไทยเฉพาะส่วนที่ผู้อ้างต้องการก็รับฟังเป็นหลักฐานได้ ไม่จำต้องแปลทั้งฉบับเพราะหากอีกฝ่ายหนึ่งเห็นว่ามีข้อความอื่นในเอกสารเป็นประโยชน์แก่ตน ย่อมแสดงข้อความนั้นต่อศาลได้
ความผิดอันยอมความได้นั้น โจทก์ไม่ต้องบรรยายฟ้องมาด้วยว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์แล้ว เพราะตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 มิได้บัญญัติให้ต้องบรรยายมาด้วย เมื่อศาลพอใจฟ้องสั่งรับฟ้อง และโจทก์นำสืบว่ามีการร้องทุกข์โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ก็ลงโทษจำเลยได้

ย่อยาว

คดีสองสำนวนนี้โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองสมคบกับพวกเอารูปในการใช้ประกอบการค้าและปลอมเครื่องหมายการค้าปากกา MARSHAL ของบริษัทสหพัฒนพิบูล จำกัด มีดโกนตราสามมงกุฏของนายเอมเอ.ไมดินมาริกันแว่นตาตราพระปรางสามองค์ของบริษัทเมืองทอง ฯลฯ ป้ายชื่อแว่นตาของบริษัทคาร์ไลเซส์แห่งเยอรมันนี มีดโกนตราสามตาของห้างหุ้นส่วนคาร์ลชะไลเพอร์ โดยเจตนาให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าของบริษัทดังกล่าว ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 272, 273, 274, 275, 32 ริบของกลาง

จำเลยทั้งสองปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตามฟ้อง ของกลางริบ

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยที่ 1 เป็นแต่เปิดเครดิตธนาคารสั่งสินค้าของกลางให้จำเลยที่ 2 โดยได้รับส่วนแบ่ง ไม่มีหลักฐานแสดงว่าจำเลยรู้ว่าเป็นสินค้าปลอม ให้ยกฟ้องส่วนจำเลยที่ 2 คงมีผิดฐานเอาชื่อและรูปเครื่องหมายปากกามาร์แชลมาใช้ และนำสินค้านี้เข้ามาในราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 272, 275 กับฐานปลอมเครื่องหมายการค้าของบริษัทคาร์ลไซส์ตามมาตรา 273 เท่านั้นไม่ริบของกลางบางอย่างเพราะไม่ผิด

โจทก์ โจทก์ร่วม กับจำเลยที่ 2 ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าฎีกาจำเลยที่ 2 ข้อ 5, 6 นั้น โจทก์อ้างและส่งเอกสารภาษาจีนที่บุคคลภายนอกทำขึ้นทั้งฉบับ แต่แปลเป็นไทยเฉพาะบางส่วนก็รับฟังได้ไม่ขัดต่อกฎหมายว่าด้วยพยานหลักฐานแต่อย่างใดไม่จำต้องรับฟังแต่เอกสารที่จำเลยทำขึ้น และหากจำเลยเห็นว่ามีข้อความตอนอื่นในเอกสารเป็นประโยชน์แก่จำเลย ๆ ก็ย่อมแสดงข้อความนั้นต่อศาลได้

ปัญหาว่าจำเลยที่ 1 ได้ร่วมกระทำผิดด้วยหรือไม่นั้น เห็นว่าจำเลยอยู่ในวงการค้า น่าจะรู้ถึงเครื่องหมายการค้าเหล่านี้ดีข้อแก้ตัวของจำเลยเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นง่าย ๆ ไม่มีเหตุผลเชื่อฟังเป็นความจริงได้

ความผิดอันยอมความได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 272เกี่ยวกับเอาชื่อ รูป ของผู้อื่นมาใช้นั้น ถึงแม้โจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ก็ดี ก็ไม่ทำให้ฟ้องนั้นไม่เป็นฟ้องเพราะความข้อนี้มิใช่เป็นข้อความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 บัญญัติให้โจทก์ต้องบรรยายมาในฟ้องเมื่อศาลชั้นต้นพอใจฟ้อง สั่งรับฟ้อง และโจทก์นำสืบว่าคดีได้มีการร้องทุกข์โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ศาลก็พิจารณาพิพากษาลงโทษจำเลยได้

พิพากษาแก้ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นทุกประการยกฎีกาจำเลยที่ 2

Share