แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระเงินตามเช็ค คำให้การของจำเลยก็มิได้ต่อสู้ว่าจำเลยมิได้เป็นผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาทคดีไม่มีข้อพิพาทเกี่ยวกับข้อความด้านหลังเช็คเลย จึงไม่มีความจำเป็นที่โจทก์จะต้องส่งสำเนาภาพถ่ายด้านหลังเช็คให้จำเลยทราบล่วงหน้าก่อนวันสืบพยาน 3 วัน.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็ค 2 ฉบับ ฉบับหนึ่งสั่งจ่ายเงิน 40,000 บาท อีกฉบับหนึ่งสั่งจ่ายเงิน 30,000บาท เมื่อเช็คถึงกำหนดโจทก์นำเข้าบัญชีเรียกเก็บเงิน ปรากฏว่าธนาคารตามเช็คได้ปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คทั้งสองฉบับ โจทก์ทวงถามแล้วจำเลยชำระเงินให้เพียง 5,000 บาทขอให้บังคับให้จำเลยชำระเงินจำนวน 65,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินจนกว่าจะชำระเงินเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ฟ้องโจทก์เคลือบคลุมและขาดอายุความแล้ว จำเลยชำระเงินให้โจทก์แล้ว 30,000 บาท หากต้องรับผิดก็ต้องรับผิดอีกเพียง 40,000 บาท ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 65,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ 9 เมษายน 2528 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยรับว่าเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาททั้งสองฉบับจึงต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คนั้นต่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงจำเลยชำระเงินให้โจทก์แล้วเพียง 5,000 บาท แล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่าที่จำเลยฎีกาอีกข้อหาหนึ่งว่าโจทก์ไม่ส่งสำเนาภาพถ่ายด้านหลังเช็คพิพาทให้จำเลยทราบล่วงหน้าก่อนวันสืบพยาน 3 วัน ศาลฎีกาจึงไม่ควรรับฟังเช็คพิพาทให้จำเลยทราบล่วงหน้าก่อนวันสืบพยาน 3 วัน ศาลฎีกาจึงไม่ควรรับฟังเช็คพิพาทน้้นศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้ไม่มีข้อพิพาทกันเกี่ยวกับข้อความด้านหลังเช็คเลย ตามคำให้การของจำเลยนั้นจำเลยก็มิได้ต่อสู้ว่าจำเลยมิได้เป็นผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาท จึงไม่มีความจำเป็นที่โจทก์จะต้องส่งสำเนาภาพถ่ายด้านหลังเช็คดังที่จำเลยกล่าวอ้างฎีกาจำเลยทุกข้อฟังไม่ขึ้น