คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3053/2531

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 ตรี เป็นบทบัญญัติที่เพิ่มโทษของความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 มาตรา 339 ทวิมาตรา 340 หรือมาตรา 340 ทวิ ส่วนความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯมาตรา 7 และมาตรา 8 ทวินั้น เป็นความผิดต่างกรรมกัน ซึ่งประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 บัญญัติให้ศาลลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ที่ 3 มีอาวุธปืนคนละ 1 กระบอกไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนที่มีอยู่ติดตัวไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควรและโดยไม่ได้รับอนุญาตกับจำเลยทั้งสามโดยจำเลยที่ 1 ที่ 3 มีอาวุธปืนดังกล่าวร่วมกันปล้นเอาทรัพย์ของนางสาวสายนิตย์ ชัยทา ผู้เสียหายไปโดยทุจริตทั้งได้ใช้รถจักรยานยนต์ 2 คัน เป็นพาหนะในการกระทำผิดและพาทรัพย์หลบหนีไป ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91,340, 340 ตรี พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 7, 8 ทวิ, 72, 72 ทวิจำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ 1 ที่ 3มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 วรรคสอง, 340 ตรี จำคุกคนละ 18 ปี กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 7, 72จำคุกคนละ 1 ปี และความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 8 ทวิ,72 ทวิ อีกกระทงหนึ่งจำคุกคนละ 1 ปี รวมจำคุกจำเลยที่ 1 ที่ 3คนละ 20 ปี รับสารภาพชั้นสอบสวน ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกคนละ13 ปี 4 เดือน ยกฟ้องจำเลยที่ 2 คำขออื่น นอกจากนี้ให้ยก จำเลยที่ 1และที่ 3 อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ลดมาตราส่วนโทษให้จำเลยที่ 3 กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 75 คงจำคุกจำเลยที่ 3 มีกำหนด 6 ปี 8 เดือน นอกจากที่แก้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…ฯลฯ…ฎีกาข้อต่อมาที่ว่า เมื่อศาลได้เพิ่มโทษจำเลยที่ 1 และที่ 3 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ตรีแล้ว ศาลไม่น่าจะลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ อีกเพราะเป็นการกระทำกรรมเดียวกัน ข้อนี้เห็นว่าตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 ตรีนั้น เป็นบทบัญญัติที่เพิ่มโทษของความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 มาตรา 339 ทวิ มาตรา 340 หรือมาตรา 340 ทวิ ส่วนความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ นั้นเป็นความผิดต่างกรรมกัน ซึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91บัญญัติให้ศาลลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ดังนั้นที่ศาลล่างทั้งสองลงโทษจำเลยที่ 1 และที่ 3 โดยเรียงกระทงลงโทษมานั้นชอบแล้วฎีกาข้อนี้ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share