คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2652/2521

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ห. เป็นเจ้าของนาพิพาทซึ่งเป็นที่ดินมี น.ส.3 ได้ทำสัญญากันเองขายให้ ส. ส. ชำระราคาบางส่วน ที่เหลือจะชำระในวันโอนทางทะเบียน ดังนี้ การซื้อขายนาพิพาทระหว่างห.กับส. มีข้อตกลงจะโอนทางทะเบียน แม้จะมีการตกลงให้ผู้ซื้อเข้าครอบครองได้ระหว่างยังไม่ได้โอนนาพิพาท ก็เป็นแต่เพียงสัญญาจะซื้อขาย และเป็นการมอบที่ดินให้เข้าครอบครองแทนกันไปก่อน สิทธิครอบครองยังคงอยู่กับ ห.เจ้าของนาพิพาทส. จะเข้าไปไถนา ปรากฏว่าจำเลยเข้าไปไถหว่านอยู่แล้วไม่ยอมให้ส.เข้าทำห. จึงเป็นผู้เสียหายมีอำนาจร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีแก่จำเลยในข้อหาบุกรุกได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจบุกรุกเข้าไปยึดถือครอบครองที่นาซึ่งอยู่ในความครอบครองและเป็นของนายหอมอันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นโดยปกติสุข ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับจำเลยแล้ว ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า นายหอมขายและมอบการครอบครองนาพิพาทแก่ผู้อื่นไปแล้ว จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย ไม่มีอำนาจร้องทุกข์ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ฟังว่า การครอบครองนาพิพาทยังอยู่กับนายหอม นายหอมจึงเป็นผู้เสียหายมีอำนาจร้องทุกข์ โจทก์มีอำนาจฟ้อง และฟังว่าจำเลยเข้าไปยึดถือครอบครองนาพิพาทโดยไม่มีสิทธิเป็นการรบกวนการครอบครองของผู้เสียหาย พิพากษากลับเป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 362 จำคุก 3 เดือน

จำเลยฎีกาว่า นายหอมไม่ใช่ผู้เสียหายไม่มีอำนาจร้องทุกข์

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า นาพิพาทเป็นที่ดินมือเปล่า เดิมเป็น ส.ค.1 ของนายหลวงบิดาจำเลยขายให้แก่นายเสรีเป็นการตีใช้หนี้เมื่อ พ.ศ. 2505 นายหลวงได้ถึงแก่กรรมไปแล้ว นายเสรีขอออก น.ส.3 จึงเกิดพิพาทกับนางนวลมารดาจำเลยศาลพิพากษาว่านายเสรีเป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่พิพาท เจ้าพนักงานจึงออก น.ส.3ให้แก่นายเสรี นายเสรีได้จดทะเบียนโอนขายต่อให้นายหอมเมื่อ พ.ศ. 2517 และในปีนั้นเองนายหอมได้เข้าครอบครองทำนา ครั้นปี พ.ศ. 2518 นายหอมทำสัญญากันเองขายต่อให้นายเสนในราคา 12,000 บาท ชำระราคากันแล้ว 10,000 บาทส่วนที่เหลือจะชำระในวันโอนทางทะเบียน ครั้นเดือนพฤษภาคม 2518 นายเสนจะเข้าไปไถที่ทำนา ปรากฏว่าจำเลยเข้าไปไถ่หว่านอยู่แล้ว ไม่ยอมให้นายเสนเข้าไปทำ นายเสนจึงไปแจ้งให้นายหอมทราบ นายหอมไปห้ามจำเลยไม่ยอมเชื่อฟังจึงไปร้องทุกข์เป็นคดีนี้ และวินิจฉัยว่าการซื้อขายที่พิพาทระหว่างนายหอมเจ้าของและนายเสน ผู้ซื้อมีข้อตกลงจะโอนทางทะเบียนและชำระราคาที่เหลือทั้งหมดในวันโอน และแม้จะมีการตกลงให้ผู้ซื้อเข้าครอบครองได้ระหว่างยังไม่ได้โอนที่พิพาทนั้นก็ตาม เป็นแต่เพียงสัญญาจะซื้อขายและเป็นการมอบที่ดินให้เข้าครอบครองแทนกันไปก่อน สิทธิการครอบครองคงอยู่กับนายหอมเจ้าของที่พิพาท นายหอมจึงเป็นผู้เสียหายในคดีนี้มีอำนาจร้องทุกข์ได้

พิพากษายืน

Share