แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ทำสัญญารับเหมาก่อสร้างอาคารของจำเลย กำหนดแล้วเสร็จใน 150 วัน แบ่งการจ่ายเงินเป็น 6 งวด ทำงวดที่ 5 ได้ประมาณครึ่งเดียวโจทก์หยุดการก่อสร้างถือว่าโจทก์ผิดสัญญา จำเลยมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากจำเลยคงมีสิทธิได้แต่ค่าจ้างในผลงานที่โจทก์ทำไปแล้วตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 141 ค่าจ้างสำหรับงานงวดที่ 5 จำเลยยังไม่จ่าย โจทก์จึงมีสิทธิได้ค่าจ้างงวดที่ 5 คำนวณตามผลงานที่โจทก์ทำไปแล้ว
เมื่อปรากฏว่าจำเลยได้ไปจ้างคนอื่นมาทำการก่อสร้างงานส่วนที่เหลือ เสียค่าใช้จ่ายพอกับที่จะจ่ายให้โจทก์หากโจทก์ทำงานเสร็จตามสัญญา จำเลยก็ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากโจทก์ คงเรียกได้เฉพาะเบี้ยปรับ เพียงจากวันครบกำหนด 150 วัน ถึงวันการก่อสร้างควรจะแล้วเสร็จหากโจทก์ทำการก่อสร้างติดต่อกันเรื่อยมา
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญาว่าจ้างโจทก์ก่อสร้างอาคาร ๒ ชั้นครึ่ง ๒ คูหา ราคา ๒๒๕,๐๐๐ บาท แบ่งการจ่ายเงินเป็น ๖ งวด โจทก์ก่อสร้างอาคารตามสัญญาครบกำหนดงวดที่ ๕ แล้วขอรับเงินค่างวด ๔๐,๐๐๐ บาท แต่จำเลยไม่ยอมจ่าย ขอให้บังคับจำเลยให้เงินงวดที่ ๕ ๔๐,๐๐๐ บาท และกำไรที่โจทก์ควรได้หากโจทก์ก่อสร้างจนเสร็จ ๓๙,๗๙๐ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยระหว่างผิดนัดถึงวันฟ้อง ๒๒๒ บาท รวมทั้งสิ้น ๗๙,๙๗๒ บาทแก่โจทก์
จำเลยให้การว่าโจทก์ทำการก่อสร้างงวดที่ ๕ ไม่เสร็จตามสัญญาและทำไม่ถูกตามแบบแปลน โจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาจำเลยได้บอกเลิกสัญญาแล้วให้คนอื่นมาก่อสร้างต่อจนเสร็จ เสียเงินไป ๑๖๒,๘๐๒ บาท เมื่อเอาเงินงวดที่ ๕ และงวดที่ ๖ ๑๐๕,๐๐๐ บาท หักแล้วโจทก์ยังต้องรับผิดใช้เงินแก่จำเลย ๕๗,๘๐๒ บาท และโจทก์จะต้องเสียค่าปรับให้แก่จำเลยอีกวันละ ๓๐๐ บาท นับแต่วันครบ ๑๕๐ วันถึงวันฟ้องเป็นเงิน ๑๒,๐๐๐ บาท และฟ้องแย้งขอให้โจทก์ใช้เงิน ๒ จำนวนดังกล่าวแก่จำเลยกับค่าเสียหายวันละ ๓๐๐ บาทจนกว่าจะเสร็จและขอให้ยกฟ้องโจทก์ด้วย
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า โจทก์มิได้เป็นฝ่ายผิดสัญญา แต่จำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญา ขอให้ยกฟ้องแย้งและบังคับจำเลยตามคำขอท้ายฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ให้โจทก์ใช้ค่าเสียหายและค่าปรับตามฟ้องแย้ง ๔๗,๑๐๘.๖๐ บาทแก่จำเลย
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์ ๑๗,๙๐๐ บาท
โจทก์และจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์มีสิทธิรับเงิน ๔๐,๐๐๐ บาท สำหรับงานงวดที่ ๕ ต่อเมื่อโจทก์ได้ก่ออิฐฉาบปูนและใส่วงกบหน้าต่างเรียบร้อยแล้ว แต่ปรากฏว่า โจทก์ยังไม่ได้ก่ออิฐชั้นดาดฟ้าและฉาบปูน โจทก์ยังไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยจ่ายเงินงวดที่ ๕ ตามสัญญาหลังจากจำเลยปฏิบัติการจ่ายเงินงวดที่ ๕ แล้วโจทก์ได้สั่งให้คนงานของโจทก์หยุดงานก่อสร้างจนกระทั่งครบ ๑๕๐ วัน โจทก์ยังสร้างอาคารไม่เสร็จ กรณีถือว่าโจทก์ผิดสัญญา โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายใดๆ จากจำเลย โจทก์คงมีสิทธิได้ค่าจ้างในผลงานที่โจทก์ได้ทำไปแล้วสำหรับงานงวดที่ ๕ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๓๙๑ ซึ่งข้อเท็จจริงฟังได้ว่างานที่โจทก์ทำไปแล้วและที่ยังไม่ได้ทำราคาพอ ๆ กัน ศาลฎีกาเห็นด้วยกับศาลอุทธรณ์ที่คำนวณผลงานให้จำเลยจ่ายค่าจ้างให้โจทก์ ๒๐,๐๐๐ บาท ข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่า จำเลยได้จ้างคนอื่นก่อสร้างงานส่วนที่เหลือต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น จากจำนวนที่ต้องจ่ายให้โจทก์ถ้าโจทก์ไม่ทิ้งงานจำเลยจึงไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายสำหรับรายการนี้ คงมีสิทธิเรียกค่าปรับเพียงจากวันครบ ๑๕๐ วัน ถึงวันการก่อสร้างควรจะแล้วเสร็จ หากโจทก์ได้ทำการก่อสร้างติดต่อกันเรื่อยมา งานงวดที่ ๕ ก็ยังไม่เสร็จดีและยังมีงวดที่ ๖ จะต้องทำอีกงวดหนึ่ง ซึ่งต้องทำการก่อสร้างต่อไปอีกแรมเดือน ที่ศาลอุทธรณ์คำนวณให้ ๗ วันนั้น ยังคลาดเคลื่อนอยู่ แต่จำเลยฎีกาขอเรียกค่าปรับมาเพียง ๑๐ วัน เป็นเงิน ๓,๐๐๐ บาท ศาลฎีกาจึงให้เพียง ๑๐ วัน ตามที่จำเลยฎีกา เมื่อนำไปหักกับเงินค่าจ้างเหมาที่จำเลยจะต้องจ่ายให้โจทก์แล้วจึงเหลือเงินที่จำเลยจะต้องใช้ให้โจทก์เพียง ๑๗,๐๐๐ บาท ฎีกาโจทก์นอกนั้นฟังไม่ชึ้น
พิพากษาแก้ให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์ ๑๗,๐๐๐ บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้อง