คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3061/2558

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่ดินพิพาทเป็นส่วนหนึ่งของที่ดิน น.ส. 3 ก. ของจำเลยทั้งสอง ดังนั้น แม้ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าโจทก์ได้สิทธิครอบครองที่ดินพิพาทโดยการยกให้จาก อ. ก็เป็นการได้มาซึ่งทรัพยสิทธิอันเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์โดยทางอื่นนอกจากนิติกรรม แต่ยังมิได้จดทะเบียน และจำเลยทั้งสองซื้อที่ดินพิพาทจากกองทุนรวมแกมม่าแคปปิตอล โดยไม่ทราบว่าโจทก์เข้าไปครอบครองทำกินในที่ดินพิพาทมาก่อน โจทก์จึงไม่อาจยกสิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทขึ้นเป็นข้อต่อสู้จำเลยทั้งสองซึ่งเป็นบุคคลภายนอกผู้ได้สิทธิมาโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริต และได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้ว ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1299 วรรคสอง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอศาลพิพากษาให้โจทก์เป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาท ห้ามจำเลยทั้งสองมายุ่งเกี่ยวกับที่ดินพิพาทอีก และให้เพิกถอนคำสั่งสำนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี สาขาบางละมุง ที่ 24/2552
จำเลยทั้งสองให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์เป็นผู้มีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทเนื้อที่ 140 ตารางวา ตามแผนที่พิพาท บริเวณที่มีเส้นสีเขียวล้อมรอบ ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี และห้ามจำเลยทั้งสองมายุ่งเกี่ยวกับที่ดินพิพาทกับให้จำเลยทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 6,000 บาท คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ ให้โจทก์ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลแทนจำเลยทั้งสอง โดยกำหนดค่าทนายความรวม 9,000 บาท
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาตามฎีกาของโจทก์ว่า โจทก์มีสิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทหรือไม่ มีปัญหาต้องวินิจฉัยก่อนว่า ที่ดินพิพาทอยู่ในที่ดิน น.ส. 3 ก. หรือไม่ จากการตรวจสอบเอกสารราชการ ที่ดินพิพาทเป็นส่วนหนึ่งของที่ดิน น.ส. 3 ก. ของจำเลยทั้งสอง เห็นว่า เมื่อพิเคราะห์ตามแผนที่พิพาท ประกอบแผนที่ และภาพถ่ายทางอากาศแล้ว ที่ดิน น.ส. 3 ก. ของจำเลยทั้งสองมีเนื้อที่ด้านทิศใต้จดห้วยสาธารณประโยชน์ ซึ่งเรียกว่า คลองกล่ำ ซึ่งรวมที่ดินพิพาทอยู่ด้วย ที่ดินพิพาทจึงเป็นส่วนหนึ่งของที่ดิน น.ส. 3 ก. ของจำเลยทั้งสอง ฉะนั้น แม้ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าโจทก์ได้สิทธิครอบครองที่ดินพิพาทโดยการยกให้จากนายอิ๋น ก็เป็นการได้มาซึ่งทรัพยสิทธิอันเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์โดยทางอื่นนอกจากนิติกรรม แต่ยังมิได้จดทะเบียน และจำเลยทั้งสองซื้อที่ดินพิพาทจากกองทุนรวมแกมม่าแคปปิตอล โดยไม่ทราบว่าโจทก์เข้าไปครอบครองทำกินในที่ดินพิพาทมาก่อน โจทก์จึงไม่อาจยกสิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทขึ้นเป็นข้อต่อสู้จำเลยทั้งสองซึ่งเป็นบุคคลภายนอกผู้ได้สิทธิมาโดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริต และได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้ว ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 วรรคสอง พยานหลักฐานของจำเลยทั้งสองมีน้ำหนักมากกว่าพยานหลักฐานของโจทก์ โจทก์ไม่มีสิทธิครอบครองในที่ดินพิพาท ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายกฟ้องนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share