คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3056/2535

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งยึดทรัพย์และประกาศขายทอดตลาดทรัพย์ของอธิบดีกรมสรรพากร ตามมาตรา 12 แห่ง ป.รัษฎากร มิใช่เป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับภาษีอากรดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 7 แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ. 2528ศาลภาษีอากรกลางไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษา.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของตึกแถวและที่ดิน จำเลยได้ใช้อำนาจตามประมวลรัษฎากร มาตรา 12 สั่งยึดตึกแถวและที่ดินของโจทก์โดยไม่ชอบเพราะโจทก์มิใช่ผู้ต้องรับผิดเสียภาษีอากรหรือนำส่งภาษีอากร โจทก์ได้ยื่นคำคัดค้านแล้วแต่จำเลยไม่แจ้งคำวินิจฉัยให้โจทก์ทราบ ต่อมาจำเลยได้ประกาศขายทอดตลาดทรัพย์สินของโจทก์ ขอให้พิพากษาว่าประกาศยึดทรัพย์และประกาศขายทอดตลาดของจำเลยเป็นโมฆะ ให้เพิกถอนประกาศดังกล่าว และให้จำเลยคืนทรัพย์สินดังกล่าวแก่โจทก์ หากไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย กับขอให้ห้ามจำเลยเข้าเกี่ยวข้องโต้แย้งสิทธิเกี่ยวกับทรัพย์สินของโจทก์อีกต่อไป
ศาลภาษีอากรกลางตรวจคำฟ้องแล้ว มีคำสั่งไม่รับฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรวินิจฉัยว่า “ตามคำฟ้องคดีนี้เป็นข้อพิพาทเกี่ยวกับการยึดทรัพย์และประกาศขายทอดตลาดทรัพย์ตามอำนาจของจำเลยว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ การที่โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งยึดทรัพย์และประกาศขายทอดตลาดทรัพย์ดังกล่าวมิใช่คดีพิพาทเกี่ยวกับภาษีอากรดังที่บัญญัติไว้ใน มาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติ จัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากรพ.ศ. 2528 ศาลภาษีอากรกลางจึงไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีนี้ที่ศาลภาษีอากรกลางมีคำสั่งไม่รับฟ้องโจทก์ชอบแล้ว…”
พิพากษายืน.

Share