คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3053/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ประกอบการค้าพิมพ์หนังสือและสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ กับ จำหน่ายเครื่องอุปกรณ์การพิมพ์ทุกชนิด ฟ้องเรียกราคาค่าอุปกรณ์การพิมพ์ที่จำหน่ายจากจำเลยโดยมิได้บรรยายฟ้องหรือนำสืบเลยว่า จำเลยซื้อสินค้าดังกล่าวไปเพื่อวัตถุประสงค์อย่างไรหรือเพื่อใช้ประกอบกิจการใด และตามทางนำสืบของจำเลยปรากฏว่าจำเลยประกอบกิจการค้าหลายอย่างหลายประการคำว่า “อุตสาหกรรม” ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165 (1) ตอนท้าย นั้น หมายถึงการประดิษฐ์หรือผลิตทำสิ่งของขึ้นให้เป็นสินค้าเพื่อจำหน่ายขายสินค้านั้น ๆ ไป ดังนั้นเมื่อไม่ปรากฏข้อเท็จจริงตามพยานหลักฐานของโจทก์ในเรื่องนี้การที่จะวินิจฉัยว่าจำเลยซื้อสินค้านั้นไปเพื่ออุตสาหกรรมของจำเลยเองจึงเป็นการไม่ชอบ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าอุปกรณ์การพิมพ์ที่ขายแก่จำเลยตามฟ้องอยู่ในกิจการค้าของโจทก์และทำในฐานะเป็นพ่อค้าขายสินค้านั้นดังบัญญัติไว้ใน มาตรา 165 (1) จึงต้องฟังว่าโจทก์เป็นพ่อค้าเรียกเอาค่าที่ได้ส่งมอบของแก่จำเลยสิทธิเรียกร้องของโจทก์จึงมีกำหนดสองปี

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยซื้อเชื่อตะกั่วตัวพิมพ์ชำรุด และรางตัวพิมพ์ไปจากโจทก์รวมเป็นเงิน ๕๕,๓๐๕ บาท แล้วไม่ยอมชำระราคา ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า คดีโจทก์ขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน ๕๕,๓๐๕ บาท พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าอุปกรณ์การพิมพ์ที่โจทก์ขายให้แก่จำเลยตามฟ้องอยู่ในกิจการค้าของโจทก์ และทำในฐานะพ่อค้าขายสินค้านั้นดังบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๕ (๑)
วินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าสินค้าที่จำเลยซื้อไปจากโจทก์ จำเลยนำไปใช้ในการพิมพ์ ถือว่าซื้อไปเพื่ออุตสาหกรรมของจำเลยกรณีต้องด้วยข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๕ (๑) วรรคท้าย สิทธิเรียกร้องของโจทก์มีอายุความ ๕ ปีนั้น เห็นว่าโจทก์มิได้บรรยายฟ้องหรือนำสืบเลยว่าจำเลยซื้อสินค้าดังกล่าวไปเพื่อวัตถุประสงค์อย่างไรหรือเพื่อใช้ประกอบกิจการใดและตามทางนำสืบของจำเลย ปรากฏว่าจำเลยประกอบกิจการค้าหลายอย่างหลายประการ คำว่า “อุตสาหกรรม” ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๕ (๑) ตอนท้าย นั้นหมายถึงการประดิษฐ์หรือผลิตหรือทำสิ่งของขึ้นให้เป็นสินค้าเพื่อจำหน่ายขายสินค้านั้น ๆ ไป ดังนั้นเมื่อไม่ปรากฏข้อเท็จจริงตามพยานหลักฐานของโจทก์ในเรื่องนี้ การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจำเลยซื้อสินค้านั้นไปเพื่ออุตสาหกรรมของจำเลยเองจึงเป็นการไม่ชอบ ข้อเท็จจริงจึงต้องฟังว่าโจทก์เป็นพ่อค้าเรียกเอาค่าที่ได้ส่งมอบของแก่จำเลย สิทธิเรียกร้องของโจทก์จึงมีกำหนดสองปี โจทก์ขายสินค้าพิพาทแก่จำเลยเมื่อวันที่ ๒๕ และ ๒๖ เมษายน ๒๕๒๑ มาฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๒๔ จึงขาดอายุความฟ้องร้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๕ (๑)ฎีกาของจำเลยฟังขึ้น
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง

Share