คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 165/2528

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์เคยนำสัญญากู้มาฟ้องจำเลยครั้งหนึ่งแล้ว แต่เมื่อโจทก์ถอนฟ้องคดีก่อน ย่อมเท่ากับว่าโจทก์ไม่เคยยื่นฟ้องคดีแพ่งดังกล่าวการที่โจทก์นำสัญญากู้ในคดีก่อนมาฟ้องคดีนี้ จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 335,286 บาทแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยเสียดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7 ครึ่งต่อปีในต้นเงิน 335,000 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ปัญหาวินิจฉัยมีว่าฟ้องทั้งสองคดีเป็นฟ้องซ้ำกับคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 255/2524 ซึ่งโจทก์ฟ้องจำเลยตามสัญญากู้ 2 ฉบับที่พิพาทกันในคดีแรกนี้ต่อศาลจังหวัดระยองต่อมาโจทก์ถอนฟ้องซึ่งศาลชั้นต้นอนุญาตแล้ว ตามคดีหมายเลขแดงที่ 286/2524หรือไม่ เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 176บัญญัติว่า “การทิ้งคำฟ้องหรือถอนคำฟ้องย่อมลบล้างผลแห่งการยื่นฟ้องนั้นรวมทั้งกระบวนพิจารณาอื่น ๆ อันมีต่อมาภายหลังยื่นคำฟ้องและกระทำให้คู่ความกลับคืนเข้าสู่ฐานะเดิมเสมือนหนึ่งมิได้มีการยื่นฟ้องเลย แต่ว่าคำฟ้องใด ๆ ที่ได้ทิ้งหรือถอนแล้ว อาจยื่นใหม่ได้ภายใต้บังคับแห่งบทบัญญัติของกฎหมายว่าด้วยอายุความ” ดังนี้ เมื่อโจทก์ถอนฟ้องคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 255/2524 หมายเลขแดงที่ 286/2524 แล้วย่อมเท่ากับว่าโจทก์ไม่เคยยื่นฟ้องคดีแพ่งดังกล่าว การที่โจทก์มาฟ้องคดีทั้งสองนี้จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำกับคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 255/2524 หมายเลขแดงที่ 286/2524 คำพิพากษาฎีกาที่จำเลยอ้างข้อเท็จจริงไม่ตรงกันศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีมาชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น”

พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share