คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3040/2541

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

++ เรื่อง ความผิดต่อพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ ความผิดต่อพระราชบัญญัติควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์
++ ความผิดต่อพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค
จำเลยละเมิดลิขสิทธิ์ในงานสร้างสรรค์ประเภทภาพยนตร์โดยนำภาพยนตร์วีดีโอเทปภาพและเสียงที่มีผู้ทำซ้ำโดยละเมิดลิขสิทธิ์รวม 32 ม้วนออกขายและเสนอขาย โดยจำเลยรู้อยู่แล้วว่าภาพยนตร์วีดีโอเทปดังกล่าวเป็นงานที่ได้ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้เสียหายซึ่งได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์พ.ศ.2537 และไม่ได้รับอนุญาตจากผู้เสียหาย และจำเลยได้ประกอบกิจการให้เช่าแลกเปลี่ยนหรือจำหน่ายวีดีโอเทปโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่ใช่กรณีที่ได้รับยกเว้นตามกฎหมาย กับจำเลยยังได้เสนอขายวีดีโอเทปอันเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลากโดยไม่ปิดฉลากจำนวน 62 ม้วน โดยจำเลยรู้หรือควรรู้ว่าการไม่ปิดฉลากดังกล่าวนั้นไม่ถูกต้องตามกฎหมายและจำเลยไม่ได้รับการยกเว้นใด ๆ ตามกฎหมาย เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมยึดม้วนวีดีโอเทปภาพยนตร์ซึ่งมีผู้ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์และไม่ปิดฉลากดังกล่าวรวม 62 ม้วน เป็นของกลาง อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์พ.ศ.2537 มาตรา 31, 70 วรรคสอง พ.ร.บ.ควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์พ.ศ.2530 มาตรา 6 วรรคหนึ่ง, 34 และ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522มาตรา 30 (2), 52 วรรคหนึ่ง เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ศาลจึงต้องมีคำสั่งให้วีดีโอเทปของกลางที่ละเมิดลิขสิทธิ์ 32 ม้วน ตกเป็นของเจ้าของลิขสิทธิ์ ส่วนวีดีโอเทปที่ไม่ปิดฉลากอีกจำนวน 30 ม้วน ความผิดของจำเลยที่เกี่ยวกับของกลางดังกล่าวนี้อยู่ที่การเสนอขายโดยได้งดเว้นไม่ปิดฉลากที่วีดีโอเทปดังกล่าว วีดีโอเทปของกลาง 30 ม้วนนี้ไม่ใช่ทรัพย์ที่มีไว้เป็นความผิดและไม่ใช่ทรัพย์ที่จำเลยใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำผิดที่จะริบได้ตาม ป.อ.มาตรา 32 หรือ มาตรา 33

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๔๐ เวลากลางวันจำเลยกระทำผิดกฎหมายหลายกรรมต่างกัน คือ จำเลยละเมิดลิขสิทธิ์ในงานสร้างสรรค์ประเภทภาพยนตร์ โดยนำภาพยนตร์วีดีโอเทปภาพและเสียงที่มีผู้ทำซ้ำโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของบริษัทวอร์เนอร์ บราเธอร์ส อิงค์ จำกัด ผู้เสียหายที่ ๑บริษัททเวนตี้ เซนจูรี่ ฟอกซ์ ฟิล์ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้เสียหายที่ ๒ บริษัทยูนิเวอร์แซล ซิตี้ สตูดิโอส์ อิงค์ จำกัด ผู้เสียหายที่ ๓ และบริษัทโคลัมเบียพิคเจอร์ อินดัสทรี อิงค์ จำกัด ผู้เสียหายที่ ๔ รวม ๓๒ ม้วน ออกขายและเสนอขาย โดยจำเลยรู้อยู่แล้วว่าภาพยนตร์วีดีโอเทปดังกล่าวเป็นงานที่ได้ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้เสียหายทั้งสี่ ซึ่งได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์พ.ศ.๒๕๓๗ และไม่ได้รับอนุญาตจากผู้เสียหาย อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย นอกจากนี้จำเลยได้ประกอบกิจการให้เช่า แลกเปลี่ยนหรือจำหน่ายวีดีโอเทปโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่ใช่กรณีที่ได้รับยกเว้นตามกฎหมาย และจำเลยยังได้เสนอขายวีดีโอเทปอันเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลากโดยไม่ปิดฉลากจำนวน ๖๒ ม้วน โดยจำเลยรู้หรือควรรู้ว่าการไม่ปิดฉลากดังกล่าวนั้นไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และจำเลยไม่ได้รับการยกเว้นใด ๆ ตามกฎหมาย เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมยึดม้วนวีดีโอเทปภาพยนตร์ซึ่งมีผู้ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์และไม่ปิดฉลากดังกล่าวรวม ๖๒ ม้วน เป็นของกลางจำเลยเคยถูกศาลแขวงดุสิตพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก ๔ เดือน ปรับ ๔,๐๐๐ บาทโทษจำคุกรอการลงโทษไว้ ๒ ปี เมื่อวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๔๐ ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๒๘๖๒/๒๕๔๐ และให้จำคุก ๒ เดือน ปรับ ๒,๑๐๐ บาท โทษจำคุกรอการลงโทษไว้ ๑ ปี เมื่อวันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๔๐ ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่๗๖๒๘/๒๕๔๐ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.๒๕๓๗ มาตรา ๔,๖, ๘, ๑๕, ๒๘, ๓๑, ๖๑, ๗๐, ๗๕, ๗๖ พระราชบัญญัติควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์ พ.ศ.๒๕๓๐ มาตรา ๔, ๖, ๓๔ พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภคพ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๓, ๑๔, ๓๐, ๓๑, ๕๒ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒,๓๓, ๕๘, ๙๑ สั่งให้วีดีโอเทปของกลางที่ละเมิดลิขสิทธิ์จำนวน ๓๒ ม้วน ดังกล่าวตกเป็นของเจ้าของลิขสิทธิ์ ให้จ่ายเงินค่าปรับฐานละเมิดลิขสิทธิ์กึ่งหนึ่งให้แก่ผู้เสียหายกับริบวีดีโอเทปของกลางที่ไม่ปิดฉลากอีก ๓๐ ม้วน และบวกโทษที่รอการลงโทษไว้ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๒๘๖๒/๒๕๔๐ และ ๗๖๒๘/๒๕๔๐ ของศาลแขวงดุสิต
จำเลยให้การรับสารภาพ และรับว่าจำเลยเคยต้องคำพิพากษาในคดีที่โจทก์ขอให้บวกโทษตามฟ้อง
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.๒๕๓๗ มาตรา ๓๑, ๗๐ วรรคสองพระราชบัญญัติควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์ พ.ศ.๒๕๓๐ มาตรา ๖ วรรคหนึ่ง,๓๔ และพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๓๐ (๒), ๕๒ วรรคหนึ่งเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๙๑ ความผิดตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.๒๕๓๗ มาตรา ๓๑, ๗๐ วรรคสองให้จำคุก ๖ เดือน และปรับ ๒๐๐,๐๐๐ บาท ความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์ พ.ศ.๒๕๓๐ มาตรา ๖ วรรคหนึ่ง, ๓๔ ปรับ ๒๐,๐๐๐ บาทและความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๓๐ (๒), ๕๒วรรคหนึ่ง ให้ปรับ ๑๐,๐๐๐ บาท รวมจำคุก ๖ เดือน และปรับ ๒๓๐,๐๐๐ บาทจำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก ๓ เดือน และปรับ ๑๑๕,๐๐๐บาท และให้บวกโทษจำคุกในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๒๘๖๒/๒๕๔๐ และคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๗๖๒๘/๒๕๔๐ ของศาลแขวงดุสิต เข้ากับโทษในคดีนี้รวมจำคุก๙ เดือน ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๙, ๓๐วีดีโอเทปของกลางที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ๓๒ ม้วน ให้ตกเป็นของเจ้าของลิขสิทธิ์ส่วนสิ่งที่ได้ใช้ในการกระทำความผิดให้ริบ จ่ายเงินกึ่งหนึ่งของค่าปรับ (ค่าปรับในส่วนความผิดต่อพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์) แก่เจ้าของลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.๒๕๓๗ มาตรา ๗๖
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า คดีมีเหตุสมควรรอการลงโทษให้จำเลย และเมื่อรอการลงโทษจำคุกแก่จำเลยจึงไม่อาจบวกโทษที่รอไว้ตามที่โจทก์ขอ อนึ่ง ที่โจทก์ขอให้ริบของกลางเฉพาะวีดีโอเทปที่ไม่ปิดฉลากจำนวน ๓๐ ม้วน นั้น ความผิดของจำเลยที่เกี่ยวกับของกลางดังกล่าวนี้อยู่ที่การเสนอขายโดยได้งดเว้นไม่ปิดฉลากที่วีดีโอเทปดังกล่าววีดีโอเทปของกลาง ๓๐ ม้วนนี้ไม่ใช่ทรัพย์ที่มีไว้เป็นความผิดและไม่ใช่ทรัพย์ที่จำเลยใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำผิดที่จะริบได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒หรือ มาตรา ๓๓ ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้ริบของกลางดังกล่าวจึงไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไข
พิพากษาแก้เป็นว่า โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด ๒ ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ ยกคำขอให้บวกโทษแก่จำเลย ส่วนวีดีโอเทปของกลางที่ไม่ปิดฉลากจำนวน ๓๐ ม้วน ให้คืนแก่เจ้าของ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง.

Share