คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 304/2517

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พระภิกษุจำเลยไม่อยู่ในโอวาทของเจ้าอาวาส เวลาไปไหนไม่ลาเจ้าอาวาส นำบุคคลภายนอกและพระภิกษุวัดอื่นมาพำนักในกุฏิจำเลยโดยไม่บอกเจ้าอาวาสไม่ปฏิบัติกิจทางสงฆ์ตามที่เจ้าอาวาสบอก เจ้าอาวาสจึงออกคำสั่งให้จำเลยออกไปจากวัดภายใน 5 วัน จำเลยทราบแล้ว ครบกำหนดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งโดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควร จำเลยจึงต้องมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานซึ่งสั่งการตามอำนาจที่มีกฎหมายให้ไว้โดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควร

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นพระภิกษุ พำนักอาศัยอยู่วัดชนะสงสารพิทยาธรได้ประพฤติตนกระด้างกระเดื่องไม่อยู่ในโอวาทของพระครูส้มเกลี้ยง อกิญจโนเจ้าอาวาส เจ้าอาวาสจึงออกคำสั่งให้จำเลยออกไปเสียจากวัดภายใน ๕ วันจำเลยทราบคำสั่งเกินกว่า ๕ วันแล้ว จำเลยไม่ออกไปจากวัด จำเลยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าอาวาสซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายโดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควร ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕มาตรา ๓๘ (๒), ๔๕ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๖๘
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยทำผิดพระธรรมวินัยและระเบียบแบบแผนที่เจ้าอาวาสกำหนดไว้บ้าง ยังไม่มีผลเสียหายรุนแรงถึงกับเจ้าอาวาสจะต้องออกคำสั่งขับไล่ให้ออกไปจากวัด ฉะนั้น แม้จำเลยจะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งก็เป็นเรื่องที่มีเหตุผลสมควร พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยไม่อยู่ในโอวาทของเจ้าอาวาส เจ้าอาวาสมีอำนาจสั่งให้จำเลยออกไปจากวัด จำเลยไม่ปฏิบัติ จำเลยต้องมีความผิดตามฟ้อง พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น ว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ มาตรา ๓๘ (๒), ๔๕ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๖๘ ให้ปรับ ๒๐๐ บาท
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงฟังได้ตามคำของพระครูส้มเกลี้ยงเจ้าอาวาส พระภิกษุฉลวย พระภิกษุสงวน และนายเฉียบพยานโจทก์ว่าจำเลยไม่อยู่ในโอวาทของเจ้าอาวาส เวลาจำเลยไปไหนไม่ลาเจ้าอาวาสจำเลยนำบุคคลภายนอกและพระภิกษุวัดอื่นมาพำนักในกุฏิจำเลยโดยไม่บอกเจ้าอาวาส จำเลยไม่ไปปฏิบัติกิจทางสงฆ์ตามที่เจ้าอาวาสบอกวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๑๔ เจ้าอาวาสจึงออกคำสั่งที่ ๑/๒๕๑๔ ลงวันที่ ๓ มีนาคม๒๕๑๔ ให้จำเลยออกไปจากวัดภายใน ๕ วัน ให้พระภิกษุผิวไปตามจำเลยมาที่กุฏิเจ้าอาวาส และอ่านคำสั่งให้จำเลยฟัง จำเลยทราบแล้วไม่ยอมลงชื่อรับทราบคำสั่งครบกำหนด ๕ วันแล้ว จำเลยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งโดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควรพยานหลักฐานจำเลยที่นำสืบว่าจำเลยได้พยายามปฏิบัติกิจของสงฆ์นั้นไม่น่าเชื่อ จำเลยเองรับว่าเคยมีพระภิกษุวัดอื่นมาพำนักในกุฏิของจำเลย จำเลยไม่ได้แจ้งให้เจ้าอาวาสทราบ อ้างว่าพระภิกษุที่มาพำนักได้แจ้งต่อเจ้าอาวาสแล้วนั้น รับฟังหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์ไม่ได้ ส่วนเหตุต่าง ๆ ที่จำเลยนำสืบว่าเจ้าอาวาสประพฤติไม่ชอบด้วยพระธรรมวินัยเป็นต้นว่า แกล้งหาเหตุเฆี่ยนตีลูกศิษย์ของจำเลยและเข้าใจผิดว่าจำเลยยุแหย่ให้บิดามารดาของลูกศิษย์จำเลยไปแจ้งต่อกำนัน เจ้าอาวาสแกล้งจำเลยให้ย้ายกุฏิ ชาวบ้านไม่เคารพนับถือเจ้าอาวาสเพราะมีพฤติการณ์เป็นที่น่ารังเกียจนั้น ข้ออ้างของจำเลยดังกล่าวไม่ใช่เหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควรที่ทำให้จำเลยพ้นความรับผิด
พิพากษายืน

Share