แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อส. ได้ครอบครองทำประโยชน์ทำสวนจากในที่ดินที่เกิดเหตุตั้งแต่ปี2486ก่อนป. ที่ดินพ.ศ.2497ใช้บังคับฉะนั้นส. เป็นผู้ได้ที่ดินที่เกิดเหตุมาตามป. ที่ดินที่ดินที่เกิดเหตุจึงไม่ใช่ป่าตามพระราชบัญญัติป่าไม้พ.ศ.2484มาตรา4(1)เมื่อส. ยกที่ดินที่เกิดเหตุให้จำเลยจำเลยจึงมีสิทธิครอบครองที่พิพาท
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484มาตรา 54, 72 ตรี วรรคสอง และให้จำเลย คนงานผู้รับจ้างผู้แทนและบริวารของจำเลยออกไปจากเขตป่า
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ที่ดินที่เกิดเหตุไม่ใช่ป่าและจำเลยมีสิทธิครอบครองในที่ดินที่เกิดเหตุ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 วินิจฉัยว่า ที่ดินที่เกิดเหตุเป็นป่าแต่จำเลยเข้าครอบครองโดยสุจริต ขาดเจตนาอันเป็นองค์ประกอบความผิดจำเลยไม่มีความผิด พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า ที่ดินที่เกิดเหตุมิใช่ป่าตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 4(1) แต่เป็นที่ดินที่จำเลยมีสิทธิครอบครองก่อนประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 ใช้บังคับ จำเลยจึงไม่มีความผิดตามฟ้องหรือไม่ จำเลยนำสิบว่า ที่ดินที่เกิดเหตุนางสุจินต์ยายของจำเลยได้ครอบครองทำเป็นสวนจาก โดยนายเกษมเป็นผู้ซื้อแทนจากนายโยธินและนางสิวบิ่วหรือบิ้นเมื่อวันที่27 เมษายน 2486 ตามสัญญาซื้อขายที่ดินในปี 2498 นางสุจินต์ได้ให้นายประสิทธิ์บิดาของจำเลยแจ้งสิทธิครอบครองที่ดิน(ส.ค.1) ในนามของนายเจ๋สามีของนางสุจินต์ แต่นายเจ๋ป่วยจึงมิได้นำแบบแจ้งการครอบครองที่ดินดังกล่าวไปยื่นต่อทางราชการและนายเจ๋ถึงแก่กรรมวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2499 ต่อมาในปี 2528กรมทางหลวงติดถนนสายพังงา-บางเตย-ทับปุด ผ่านที่ดินที่เกิดเหตุและได้จ่ายเงินค่าตอบแทนพืชผลให้นางสุจินต์จำนวน 22,900 บาทนางสุจินต์ได้เสียภาษีบำรุงท้องที่ในที่ดินที่เกิดเหตุตลอดมาจำเลยได้รับการยกให้ที่ดินที่เกิดเหตุจากนางสุจินต์เมื่อวันที่15 มกราคม 2531 เห็นว่าการแจ้งสิทธิการครอบครองของนางสุจินต์ในที่ดินที่เกิดเหตุแม้จะไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายแต่ก็เป็นหลักฐานสนับสนุนว่า นางสุจินต์ได้ครอบครองที่ดินที่เกิดเหตุก่อนแล้วพยานจำเลยน่าเชื่อว่าที่ดินที่เกิดเหตุไม่มีสภาพเป็นป่านางสุจินต์ได้ครอบครองทำประโยชน์ทำสวนจากในที่ดินที่เกิดเหตุตั้งแต่ปี 2486 ก่อนประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 ใช้บังคับฉะนั้นนางสุจินต์เป็นผู้ได้ที่เกิดเหตุมาตามประมวลกฎหมายที่ดินที่ดินที่เกิดเหตุจึงไม่ใช่ป่าตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484มาตรา 4(1) เมื่อนางสุจินต์ยกที่ดินที่เกิดเหตุให้จำเลยจำเลยจึงมีสิทธิครอบครองที่พิพาท
พิพากษายืน