คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3028/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยพิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ขณะที่โจทก์ถูกตะคอกนางสาวอ.ผู้บังคับบัญชาของโจทก์ว่าจะเซ็นชื่อในใบลาหรือไม่ถ้าไม่รักศักดิ์ศรีเป็นเกิดเรื่องแน่และเมื่ออ.ถามว่าจะต่อยหน้าหรือโจทก์ก็พูดว่าไม่แน่พร้อมกับกำมือแน่นอยู่นั้นไม่ปรากฎว่าโจทก์ได้แสดงกิริยาอาการอื่นที่แสดงให้เห็นว่าโจทก์จะเข้าทำร้ายอ. การกระทำของโจทก์จึงเป็นเพียงการกระทำที่ไม่สุภาพและไม่สมควรเท่านั้นยังไม่พอถือได้ว่าเป็นการกระทำผิดอย่างร้ายแรงหรือมีเหตุอันสมควรที่จำเลยจะเลิกจ้างโจทก์โดยไม่ถือว่าเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมจำเลยต้องจ่ายค่าชดเชยสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าและค่าเสียหายแก่โจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยอ้างว่าโจทก์แสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพและไม่เชื่อฟังผู้บังคับบัญชา ซึ่งเป็นเหตุที่จำเลยได้ใช้ลงโทษเตือนเป็นหนังสือแก่โจทก์ไปแล้ว จึงเป็นการเลิกจ้างที่ไม่ชอบและเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม ขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าชดเชย สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า และค่าเสียหายแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า เลิกจ้างโจทก์เพราะโจทก์กล่าวอาฆาตและแสดงกิริยาจะทำร้ายหัวหน้างานขณะปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเป็นกระทำผิดกฎระเบียบของจำเลยอย่างร้ายแรง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชย สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า และค่าเสียหายแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ที่จำเลยอุทธรณ์ว่า การที่โจทก์พูดตะคอกนางสาวอุบลวรรณว่า จะเซ็นชื่อในใบลาหรือไม่เซ็นซึ่งขณะนั้นโจทก์กำมือแน่นพร้อมที่จะเข้าทำร้ายนางสาวอุบลวรรณเป็นการกระทำผิดกฎระเบียบข้อบังคับของจำเลยอย่างร้ายแรงจำเลยมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์ได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยหรือเงินใด ๆให้แก่โจทก์นั้น เห็นว่า จากข้อเท็จจริงที่ได้ความตามคำวินิจฉัยของศาลแรงงานกลาง ไม่ปรากฎว่าขณะที่โจทก์พูดตะคอกนางสาวอุบลวรรณและกำมือแน่นอยู่นั้น โจทก์ได้แสดงกิริยาอาการอื่นที่จะให้เห็นได้ว่าโจทก์จะเข้าทำร้ายนางสาวอุบลวรรณ ยังไม่พอที่จะให้ถือได้ว่าเป็นการกระทำผิดอย่างร้ายแรงหรือมีเหตุอันสมควรที่จำเลยจะเลิกจ้างโจทก์ได้โดยไม่ถือว่าเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม ที่ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า และค่าเสียหายให้โจทก์ ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย
พิพากษายืน

Share