คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3027/2528

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความชำระหนี้ให้แก่โจทก์เป็นงวด แม้ไม่ได้ระบุว่าผิดนัดงวดใดงวดหนึ่งให้ถือว่าผิดนัดทั้งหมดโจทก์ฟ้องบังคับให้ชำระหนี้ได้ก็ตามแต่เมื่อจำเลยผิดนัดไม่ชำระหนี้ให้แก่โจทก์ตามเวลาที่ตกลงกันไว้แม้แต่งวดหนึ่งงวดใด ก็ตกเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญายอมทั้งหมด หาใช่ผิดนัดแต่เฉพาะงวดไม่ โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องบังคับให้จำเลยชำระหนี้ทั้งหมดได้ (โปรดดูคำพิพากษาฎีกาที่ 521/2510 ประชุมใหญ่)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกู้เงินโจทก์ไป 50,000 บาท แล้วไม่ชำระ ต่อมาโจทก์จำเลยได้ตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน เมื่อถึงกำหนดชำระตามสัญญายอม จำเลยเพิกเฉย จนบัดนี้ก็ยังไม่ชำระ ขอบังคับให้จำเลยชำระเงิน50,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย

จำเลยให้การต่อสู้คดีหลายประการและต่อสู้ด้วยว่า หากหนังสือสัญญาประนีประนอมยอมความใช้บังคับได้ จำเลยก็รับผิดเฉพาะ 2 งวดที่ค้างเป็นเงิน8,000 บาท ส่วนงวดอื่นยังไม่ถึงกำหนดชำระ โจทก์ไม่มีสิทธิบังคับให้ชำระ ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระต้นเงิน 50,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ เป็นว่าให้จำเลยชำระดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้องจนกว่าะชำระเสร็จ

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาที่ว่าเมื่อสัญญาประนีประนอมยอมความไม่ได้ระบุไว้ว่าหากจำเลยผิดนัดงวดใดงวดหนึ่งจะถือได้หรือไม่ว่าผิดนัดทั้งหมดและโจทก์มีสิทธิฟ้องบังคับให้จำเลยชำระหนี้ทั้งหมดได้หรือไม่ดังนี้ เมื่อจำเลยผิดนัดไม่ชำระหนี้ให้โจทก์ 2 งวดนั้นถือได้ว่าจำเลยไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง จำเลยจึงเป็นผู้ผิดสัญญาประนีประนอมยอมความ เมื่อจำเลยไม่ชำระหนี้ตามเวลาที่ตกลงกันไว้แม้แต่งวดหนึ่งงวดใด ก็ย่อมตกเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความทั้งหมดหาใช่ผิดนัดเฉพาะงวดไม่

พิพากษายืน

Share