คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3027/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเก็บปืนและเงิน 70,000 บาท ไว้ในลิ้นชักรถ เมื่อจำเลยนั่งรถไปด้วย ถือได้ว่าจำเลยพาอาวุธปืนติดตัวไป และการที่จำเลยขับรถไปส่งผู้เสียหายกับพวกแล้วพากันไปนั่งดื่มสุราและเบียร์ โดยทิ้งเงินไว้ในรถซึ่งจอดอยู่ห่างจากจำเลยประมาณ 5 – 6 วา แสดงว่าจำเลยมิได้ห่วงใยเกี่ยวกับความปลอดภัยของทรัพย์สิน การที่จำเลยพาอาวุธปืนติดตัวไปจึงถือไม่ได้ว่ามีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้อาวุธป์นรีวอลเวอร์ขนาด .๓๘ ซึ่งเป็นปืนมีทะเบียนยิงผู้เสียหาย ๑ นัด โดยเจตนาฆ่า กระสุนปืนที่จำเลยยิงไม่ถูกอวัยวะสำคัญ ผู้เสียหายจึงไม่ถึงแก่ความตาย และจำเลยพาอาวุธปืนดังกล่าวไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวและโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๐, ๓๗๑, ๓๓ พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา ๘ ทวิ, ๗๒ ทวิ ริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๐ และฐานพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๗๑ และพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา ๘ ทวิ, ๗๒ ทวิ ให้ลงโทษและริบของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่าจำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายแล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ที่จำเลยฎีกาว่าวันเกิดเหตุจำเลยนำเงิน ๗๐,๐๐๐ บาท และปืนของกลางเก็บไว้ในลิ้นชักรถ จำเลยไม่ได้เอาปืนมาพกไว้ที่ตัว ทั้งการที่จำเลยเก็บปืนไว้ในลิ้นชักรถก็เพื่อมิให้สูญหาย กับเพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน นับว่ามีเหตุจำเป็นเร่งด่วนนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าแม้จำเลยจะเก็บไว้ในลิ้นชักรถ เมื่อจำเลยนั่งรถไปด้วย ก็ถือได้ว่าจำเลยพาอาวุธปืนติดตัวไป การที่จำเลยขับรถไปส่งผู้เสียหายกับพวก แล้วพากันไปนั่งดื่มสุราและเบียร์ โดยทิ้งเงินไว้ในรถซึ่งจอดอยู่ห่างจากจำเลยประมาณ ๕-๖ วา แสดงว่าจำเลยมิได้ห่วงใยเกี่ยวกับความปลอดภัยของทรัพย์สิน การที่จำเลยพาอาวุธปืนติดตัวไปจึงถือไม่ได้ว่ามีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์
พิพากษายืน

Share