คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1165/2519

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งแปดร่วมกันตัดฟันต้นไม้ของผู้เสียหายขอให้ลงโทษฐานทำให้เสียทรัพย์ จำเลยทั้งแปดให้การต่อสู้ว่าต้นไม้ตามฟ้องเป็นของจำเลยที่ 8 จำเลยที่ 8 เป็นผู้จ้างวานจำเลยที่ 1 ถึงที่ 7 ตัดฟันศาลชั้นต้นฟังว่าต้นไม้นั้นเป็นของผู้เสียหาย พิพากษาลงโทษจำเลยที่ 8 แต่เห็นว่าจำเลยที่ 1 ถึงที่ 7 สำคัญผิดในข้อเท็จจริง จึงให้ปล่อยตัวพ้นข้อหาไป โจทก์อุทธรณ์ว่าจำเลยที่ 1 ไม่ได้สำคัญผิดในข้อเท็จจริงจำเลยที่ 8 อุทธรณ์ขอให้ยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาแต่เฉพาะจำเลยที่ 8 เห็นว่า คดีฟังไม่ได้ว่าต้นไม้ที่จำเลยตัดฟันเป็นของผู้เสียหาย พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 8 ด้วย โดยไม่พิจารณาอุทธรณ์ของโจทก์ ดังนี้เป็นกรณีที่ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาโดยไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณาความศาลฎีกาย่อมพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาใหม่ตามรูปคดี

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งแปดได้บังอาจร่วมกันตัดฟันต้นยางพาราและต้นเนียงอันเป็นการทำให้เสียหายซึ่งพืชผลของกสิกร ขอให้ลงโทษ

จำเลยให้การว่า จำเลยทั้งแปดได้เข้าไปตัดฟันต้นไม้ตามฟ้องจริง โดยจำเลยที่ 8 เป็นผู้ว่าจ้างจำเลยที่ 1 ถึงที่ 7 เข้าไปตัดฟัน แต่ต่อสู้ว่าที่ดินและต้นไม้ที่ตัดฟันเป็นของจำเลยที่ 8

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า จำเลยที่ 1 ถึงที่ 7 เข้าใจว่าต้นไม้ที่ตัดฟันเป็นของจำเลยที่ 8 จึงเป็นการสำคัญผิดในข้อเท็จจริง ทั้งไม่มีเจตนาที่จะตัดฟันต้นไม้ของผู้เสียหาย จึงได้รับยกเว้นโทษ ส่วนจำเลยที่ 8 ได้ใช้และจ้างจำเลยที่ 1 ถึงที่ 7 และร่วมกระทำผิดด้วย จึงมีความผิด พิพากษาว่าจำเลยที่ 8มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 359 จำคุกสองปี ให้ปล่อยจำเลยที่ 1ถึงที่ 7 พ้นข้อหาไป

โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ส่วนจำเลยที่ 8 อุทธรณ์ขอให้ยกฟ้อง

ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วฟังไม่ได้ว่าต้นยาง ต้นเนียง ต้นสะตอ ที่จำเลยที่ 8ใช้ จ้างวานให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 7 ตัดฟันนั้น เป็นต้นยางของผู้เสียหาย พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 8 ด้วย นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกา ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 เพราะศาลอุทธรณ์ยังไม่ได้พิพากษาและขอให้ลงโทษจำเลยที่ 8 ด้วย

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์อุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้นว่า จำเลยที่ 1 เป็นบุตรของจำเลยที่ 8 ได้อยู่ร่วมใกล้ชิดกันตลอดมา จำเลยที่ 1 ได้รู้ถึงความเป็นมาแห่งที่ดินและความเป็นมาแห่งทรัพย์อันเป็นมูลคดีนี้แล้ว เมื่อศาลชั้นต้นฟังว่าต้นยางและต้นเนียงเป็นของผู้เสียหาย จำเลยที่ 1 ย่อมไม่มีทางที่จะสำคัญผิดในข้อเท็จจริง จึงเป็นการกระทำผิดตามฟ้องโจทก์ ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ด้วย ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาแต่เฉพาะจำเลยที่ 8 โดยไม่พิจารณาอุทธรณ์ของโจทก์ดังกล่าวแล้ว จึงไม่ชอบด้วยวิธีพิจารณาความ

พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาใหม่ตามรูปคดี

Share