คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3023/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เช็คพิพาทผู้สั่งจ่ายออกให้ใช้เงินแก่ผู้ถือโดยผู้สั่งจ่ายได้ลงวันที่ในช่องวันที่ออกเช็คและลงชื่อกำกับไว้ใต้ช่องวันที่ออกเช็ค ดังนี้แม้ผู้สั่งจ่ายจะมิได้ลงเดือนและปีไว้ในช่องวันที่ออกเช็คก็ต้องถือว่า ผู้สั่งจ่ายเจตนาให้ผู้ทรงเช็คลงวันที่ในเช็คเอาเองในภายหลังผู้ทรงเช็คย่อมลงวันที่ในเช็คเป็นวันไหนก็ได้ผู้สั่งจ่ายจะโต้แย้งว่า ผู้ทรงเช็คกระทำการโดยไม่สุจริตและเช็คนั้นไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายหาได้ไม่
เช็คพิพาทเป็นเช็คออกให้ใช้เงินแก่ผู้ถือซึ่งโอนเปลี่ยนมือกันได้เพียงด้วยการส่งมอบให้กัน เมื่อโจทก์มีเช็คไว้ในครอบครองนำเช็คไปเรียกเก็บเงินและธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายให้รับผิดต่อโจทก์ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 989 ประกอบมาตรา 967
อายุความที่ผู้ทรงเช็คฟ้องผู้สั่งจ่ายเช็คเรียกเงินตามเช็ค ห้ามมิให้ฟ้องเมื่อพ้นเวลา 1 ปี นับแต่วันที่เช็คถึงกำหนดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1002

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยไดลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คพิพาทชำระหนี้แก่โจทก์เมื่อเช็คถึงกำหนดโจทก์นำยื่นธนาคารเข้าบัญชีเงินฝากของโจทก์เพื่อเรียกเก็บเงินตามเช็คปรากฏว่าธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน จึงทำให้จำเลยชำระเงินตามเช็คจำนวน๑๐๐,๐๐๐ บาทพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม โจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คจึงไม่มีกำหนดฟ้อง ฟ้องโจทก์ขาดอายุความขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม โจทก์เป็นผู้ทรงเช็ค คดีไม่ขาดอายุความให้จำเลยใช้เงิน ๑๐๐,๐๐๐ บาทพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยลงลายมือชื่อเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คออกให้ใช้เงินแก่ผู้ถือและลงลายมือชื่อที่ใต้ช่องวันที่ออกเช็คพิพาทสัญญาตามฎีกาของจำเลยว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องและคดีของโจทก์ขาดอายุความนั้นศาลฎีกาพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์และจำเลยแล้ว พยานโจทก์มีน้ำหนักน่าเชื่อมากกว่าพยานจำเลยคดีฟังได้ว่าจำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทเพื่อแลกเงินสด โจทก์จ่ายเงินสดให้ไปและรับเช็คนั้นไว้ โจทก์ย่อมเป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบ ประกอบกับจำเลยรับว่าจำเลยได้ลงวันที่ ๑๕ ในช่องวันที่ออกเช็คและจำเลยได้ลงชื่อกำกับไว้ใต้ช่องวันที่ออกเช็ค ลงปฏิเสธเฉพาะว่า จำเลยไม่ได้ลงรายการเดือนและมีเท่านั้น เห็นว่าการที่จำเลยได้ลงชื่อกำกับไว้ใต้ช่องวันออกเช็คนั้น ย่อมถือเป็นปริยายได้ว่า จำเลยยินยอมหรือมอบหมายให้ผู้ทรงเช็คจดวันที่ออกเช็คซึ่งหมายถึง เดือนและปี ตามที่ถูกต้องแท้จริงลงในเช็ค ก่อนนำเช็คไปเรียกเก็บเงินได้เอง ดังนั้นแม้จำเลยจะมิให้ลงเดือนและปีไว้ในช่องวันที่ออกเช็คก็ต้องถือว่าจำเลยเจตนาให้ผู้ทรงเช็คลงวันที่ในเช็คเอาเองในภายหลัง ผู้ทรงเช็คย่อมลงวันที่ในเช็คเป็นวันไหนก็ได้ จำเลยจะได้แจ้งว่าผู้ทรงเช็คกระทำการโดยไม่ทุจริตและเช็คนั้นไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายหาได้ไม่เช็คพิพาทเป็นเช็คออกให้ใช้เงินแก่ผู้ถือสั่งโอนเปลี่ยนมือกันได้เพียงด้วยส่งมอบให้กันเมื่อโจทก์มีเช็คพิพาทไว้ในครอบครองนำเช็คไปเรียกเก็บเงินและธนาคารตามเช็คได้ปฏิเสธการจ่ายเงินโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยซึ่งเป็นผู้สั่งจ่ายให้รับผิดต่อโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๙๘๙ ประกอบมาตรา ๙๖๗ ได้ส่วนในปัญหาเรื่องอายุความฟ้องร้องนั้น เห็นว่าประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๑๐๘๓ ได้ปฏิบัติเกี่ยวกับอายุความที่ผู้ทรงเช็คฟ้องผู้สั่งจ่ายเช็คเรียกเงินตามเช็คห้ามมิให้ฟ้องเมื่อพ้นเวลา ๑ ปี นับแต่วันที่เช็คถึงกำหนด เมื่อคดีฟังได้ว่าเช็คพิพาทลงวันที่สั่งจ่ายเป็นวันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๒๓ และโจทก์ยื่นฟ้องคดีนี้วันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๑๔ คดีของโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
พิพากษายืน

Share