คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3011/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

หนังสือมอบอำนาจข้อ 6 ระบุว่า ให้ผู้รับมอบอำนาจเรียกร้องทวงถามให้ชำระหนี้ แจ้งบังคับจำนองหรือจำนำดำเนินคดี ฟ้องร้อง แก้ต่างทั้งคดีแพ่งคดีอาญา ฯลฯ เพื่อประโยชน์ในกิจการดังกล่าวให้ผู้รับมอบอำนาจกระทำได้ซึ่งสาขาที่กล่าวข้างต้นมีส่วนได้เสียหรือเกี่ยวข้องอยู่ และข้อ 9ระบุว่าให้มีอำนาจดูแลและรักษาผลประโยชน์และทรัพย์สินทุกอย่างของผู้มอบอำนาจ จึงเป็นการมอบอำนาจให้ฟ้องคดีเกี่ยวกับการกระทำละเมิดต่อทรัพย์สินของผู้มอบอำนาจที่อยู่ในความดูแลรักษาของผู้รับมอบอำนาจด้วย หาใช่เพียงมอบอำนาจให้ดำเนินการสาขาเฉพาะการธนาคารพาณิชย์ตามที่ระบุไว้ในข้อ 1 ข้อ 2 และข้อ 3 ไม่ ผู้รับมอบอำนาจจึงใช้หนังสือมอบอำนาจนี้ฟ้องคดีละเมิดต่อทรัพย์สินดังกล่าวแทนผู้มอบอำนาจได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ลูกจ้างของจำเลยที่ 1 กระทำละเมิดต่อโจทก์โดยขับรถยนต์ด้วยความเร็วสูงชนรถคันอื่นกระเด็นไปถูกรถยนต์ของโจทก์ได้รับความเสียหาย จำเลยที่ 1 ในฐานะนายจ้างและจำเลยที่ 2ในฐานะผู้รับประกันภัยรถยนต์ของจำเลยที่ 1 ต้องร่วมกันรับผิดขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ จำนวน55,765.15 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยทั้งสองให้การว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง เหตุเกิดมิใช่เพราะความประมาทของคนขับรถยนต์บรรทุกของจำเลยที่ 1 และความเสียหายไม่เท่าที่โจทก์ฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน53,490 บาท พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่า ร้อยโทปรีชาเป็นผู้จัดการธนาคารโจทก์สาขาปากช่อง ธนาคารโจทก์ได้มอบอำนาจให้ร้อยโทปรีชา ดำเนินการสาขาปากช่องแทนตามหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.3 คดีมีปัญหาจะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยทั้งสองว่า ร้อยโทปรีชาใช้หนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.3 ฟ้องคดีนี้แทนโจทก์ได้หรือไม่ เห็นว่า ตามหนังสือมอบอำนาจดังกล่าว ข้อ 6ระบุว่าให้ร้อยโทปรีชามีอำนาจเรียกร้อง ทวงถาม ให้ชำระหนี้แจ้งบังคับจำนองหรือจำนำ ดำเนินคดีฟ้องร้อง แก้ต่างทั้งคดีแพ่งคดีอาญา ฯลฯ เพื่อประโยชน์ในกิจการดังกล่าวให้ผู้รับมอบอำนาจกระทำได้ซึ่งสาขาที่กล่าวข้างต้นมีส่วนได้เสียหรือเกี่ยวข้องอยู่และข้อ 9 ให้มีอำนาจดูแลและรักษาผลประโยชน์และทรัพย์สินทุกอย่างของธนาคาร จึงเป็นการมอบอำนาจให้ฟ้องคดีเกี่ยวกับการกระทำละเมิดต่อทรัพย์สินของโจทก์ที่อยู่ในความดูแลรักษาของร้อยโทปรีชาด้วย หาใช่เพียงมอบอำนาจให้ดำเนินกิจการสาขาเฉพาะการธนาคารพาณิชย์ตามที่ระบุไว้ในข้อ 1 ข้อ 2 และข้อ 3 ดังที่จำเลยทั้งสองฎีกาไม่ ร้อยโทปรีชาจึงใช้หนังสือมอบอำนาจนี้ฟ้องคดีแทนโจทก์ได้ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาชอบแล้วฎีกาของจำเลยทั้งสองฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share