คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 30/2559

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การยื่นคำร้องขอคืนหลักประกันคดีนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากผู้ประกันทั้งสองผิดสัญญาประกันไม่ส่งตัวจำเลยต่อศาลตามนัดในคดีความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งการจะคืนหลักประกันให้แก่ผู้ประกันทั้งสองหรือไม่ ศาลต้องพิจารณาถึงการนำตัวจำเลยซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดดังกล่าวมาส่งศาลประกอบด้วย ดังนั้นคำร้องขอคืนหลักประกันถือว่าเกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 จึงเป็นความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด อันอยู่ในบังคับของ พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ.2550 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง ซึ่งให้อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวไปยังศาลอุทธรณ์แผนกคดียาเสพติด ศาลอุทธรณ์แผนกคดียาเสพติดจึงมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีนี้
ส่วนที่ผู้ประกันทั้งสองฎีกาว่า การชำระหนี้เป็นการพ้นวิสัยเพราะพฤติการณ์อันเกิดขึ้นภายหลังการก่อหนี้ซึ่งผู้ประกันทั้งสองไม่ต้องรับผิดชอบเนื่องจากเป็นเหตุเกิดจากศาลเอง ขอให้ศาลฎีกาคืนหลักประกันให้แก่ผู้ประกันนั้นเป็นการโต้แย้งคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์เกี่ยวกับการบังคับตามสัญญาประกันซึ่ง พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ.2550 มิได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะจึงต้องนำบทบัญญัติแห่ง ป.วิ.อ. มาตรา 119 มาใช้บังคับตาม พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ.2550 มาตรา 3 เมื่อศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าผู้ประกันทั้งสองไม่สามารถนำตัวจำเลยมาศาลได้ตามกำหนดนัด ย่อมเป็นการผิดสัญญาประกันที่ได้ทำไว้ในคดีนี้ จึงมีคำพิพากษายืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ผู้ประกันทั้งสองคืนหลักประกันให้แก่ศาลชั้นต้น คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ดังกล่าวย่อมเป็นที่สุดตาม ป.วิ.อ. มาตรา 119 วรรคหนึ่ง

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นอนุญาตให้ผู้ประกันทั้งสองประกันตัวจำเลยไปในระหว่างพิจารณา โดยทำสัญญาประกันไว้ต่อศาลในวงเงิน 1,000,000 บาท ต่อมาวันที่ 28 เมษายน 2557 ผู้ประกันทั้งสองผิดสัญญาประกันไม่ส่งตัวจำเลยตามกำหนดนัดศาลชั้นต้นสั่งปรับผู้ประกันทั้งสองตามสัญญาและออกหมายจับจำเลย วันที่ 26 พฤษภาคม 2557 ผู้ประกันทั้งสองยื่นคำร้องขอคืนหลักประกัน ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า หลังจากผู้ประกันทั้งสองทำสัญญาประกันต่อศาลชั้นต้นเพื่อขอให้ปล่อยจำเลยชั่วคราวในระหว่างพิจารณาแล้ว เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2557 จำเลยซึ่งถูกควบคุมตัวในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1628/2557 ของศาลชั้นต้น ได้หลบหนีจากห้องคุมขังของศาลชั้นต้นเป็นเหตุให้ผู้ประกันทั้งสองไม่สามารถส่งตัวจำเลยตามกำหนดคดีนี้ในวันที่ 28 เมษายน 2557 ได้ ผู้ประกันทั้งสองจึงขอให้ศาลชั้นต้นตรวจคืนหลักประกันให้ เห็นว่า ได้ความจากสำนวนคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1628/2557 ของศาลชั้นต้นว่า จำเลยในคดีดังกล่าวเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีนี้ทั้งได้ตรวจสอบหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนของจำเลยทั้งสองสำนวนแล้วตรงกัน เชื่อว่าจำเลยคดีนี้เป็นบุคคลคนเดียวกันกับจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1628/2557 ของศาลชั้นต้น เมื่อจำเลยหลบหนีในคดีดังกล่าวขณะอยู่ในการควบคุมของเจ้าพนักงานตำรวจประจำศาล ถือว่าจำเลยคดีนี้อยู่ในอำนาจศาลแล้วเช่นกัน ดังนั้น การที่ผู้ประกันทั้งสองไม่สามารถส่งตัวจำเลยได้ จึงไม่ใช่ความผิดของผู้ประกันทั้งสอง อนุญาตให้ตรวจคืนหลักประกันได้ตามขอ โดยให้เพิกถอนหมายจับเดิม และออกหมายจับจำเลยใหม่ภายในกำหนดอายุความ ต่อมาวันที่ 19 มิถุนายน 2557 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ในส่วนที่มีคำสั่งให้ตรวจคืนหลักประกันให้แก่ผู้ประกันทั้งสองนั้น เป็นกรณีสั่งโดยผิดหลง เห็นควรให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าว และให้ผู้ประกันทั้งสองส่งต้นฉบับโฉนดเลขที่ 12319 ตำบลโคกพระ อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม และโฉนดที่ดินเลขที่ 3797 ตำบลบ่อแก้ว กิ่งอำเภอนาคู จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นหลักประกันคืนต่อศาล แจ้งอายัดโฉนดที่ดินทั้งสองฉบับโดยเร็ว
ผู้ประกันทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์แผนกคดียาเสพติดพิพากษายืน
ผู้ประกันทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่ผู้ประกันทั้งสองฎีกาว่า คดีนี้มิใช่คดีเกี่ยวกับยาเสพติดจึงไม่อยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ.2550 ศาลอุทธรณ์แผนกคดียาเสพติดจึงไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษานั้น เห็นว่า การยื่นคำร้องขอคืนหลักประกันคดีนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากผู้ประกันทั้งสองผิดสัญญาประกันไม่ส่งตัวจำเลยต่อศาลตามนัดในคดีความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งการจะคืนหลักประกันให้แก่ผู้ประกันทั้งสองหรือไม่ ศาลต้องพิจารณาถึงการนำตัวจำเลยซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดดังกล่าวมาส่งศาลประกอบด้วย ดังนั้น คำร้องขอคืนหลักประกันถือว่าเกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 จึงเป็นความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด อันอยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ.2550 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง ซึ่งให้อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวไปยังศาลอุทธรณ์แผนกคดียาเสพติด ศาลอุทธรณ์แผนกคดียาเสพติดจึงมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีนี้ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ผู้ประกันทั้งสองอ้างไม่ผูกพันคดีนี้
ส่วนที่ผู้ประกันทั้งสองฎีกาว่า การชำระหนี้เป็นการพ้นวิสัย เพราะพฤติการณ์อันเกิดขึ้นภายหลังการก่อหนี้ซึ่งผู้ประกันทั้งสองไม่ต้องรับผิดชอบเนื่องจากเป็นเหตุเกิดจากศาลเอง ขอให้ศาลฎีกาคืนหลักประกันให้แก่ผู้ประกันนั้น เห็นว่า เป็นการโต้แย้งคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์เกี่ยวกับการบังคับตามสัญญาประกัน ซึ่งพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ.2550 มิได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะ จึงต้องนำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 119 มาใช้บังคับตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ.2550 มาตรา 3 เมื่อศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าผู้ประกันทั้งสองไม่สามารถนำตัวจำเลยมาศาลได้ตามกำหนดนัด ย่อมเป็นการผิดสัญญาประกันที่ได้ทำไว้ในคดีนี้ จึงมีคำพิพากษายืนตามคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้ผู้ประกันทั้งสองคืนหลักประกันให้แก่ศาลชั้นต้น คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ดังกล่าวย่อมเป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 119 วรรคหนึ่ง ที่ศาลชั้นต้นรับฎีกาของผู้ประกันทั้งสองในข้อนี้มาด้วย จึงเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายืน

Share