แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้สัญญาเช่าซื้อระบุว่าหากผู้เช่าซื้อผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อสองงวดติดกัน ให้ถือว่าสัญญาเลิกกันทันที แต่การที่ผู้เช่าซื้อผิดนัดสองงวดติดกันแล้ว ผู้ร้องยินยอมรับค่าเช่าซื้องวดแรกจากผู้เช่าซื้อหลังจากกำหนดเวลาตามสัญญาถึง 7 เดือน โดยมิได้เลิกสัญญาหรือยึดรถยนต์ที่ให้เช่าซื้อคืน แสดงว่าผู้ร้องมิได้ถือเอากำหนดเวลาที่ผู้เช่าซื้อผิดนัดตามสัญญาเช่าซื้อเป็นสาระสำคัญ และไม่ประสงค์จะเลิก สัญญา เมื่อผู้เช่าซื้อผิดนัดอีกกว่า 20 งวด ผู้ร้องก็เพียงแต่ติดตามทวงถามค่าเช่าซื้อเท่านั้นประกอบกับสัญญาเช่าซื้อระบุว่าในกรณีทรัพย์สินที่เช่าซื้อสูญหาย หรือเสียหายไม่ว่าด้วยเหตุสุดวิสัยก็ดี หรือเหตุอื่นใดก็ดีฯลฯ ผู้เช่าซื้อตกลงจะใช้ราคาทรัพย์สินเต็มจำนวนตามสัญญาเป็นพฤติการณ์ที่ถือได้ว่า ผู้ร้องมีเจตนาเพียงต้องการที่จะได้รับค่าเช่าซื้อเท่านั้นผู้ร้องจึงเพิกเฉยไม่บอกเลิกสัญญาหรือติดตามรถยนต์ที่ให้เช่าซื้อคืนจนกระทั่งจำเลยนำรถยนต์คันดังกล่าวไปใช้กระทำความผิดและถูกริบถือได้ว่าผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิด.
ย่อยาว
คดีนี้สืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติป่าไม้และสั่งริบรถยนต์ของกลาง ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยและสั่งริบรถยนต์ของกลาง
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอคืนรถยนต์ของกลาง
โจทก์ยื่นคำคัดค้าน
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้คืนรถยนต์ของกลางแก่ผู้ร้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้ว่าตามสัญญาเช่าซื้อ เอกสารหมาย ร.๔ ข้อ ๑๖ จะมีข้อความระบุไว้ว่า หากผู้เช่าซื้อผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อสองงวดติดกัน ให้ถือว่าสัญญาเลิกกันทันทีก็ตาม แต่การที่ผู้เช่าซื้อผิดนัดสองงวดติดกันแล้ว ผู้ร้องยังยอมรับค่าเช่าซื้องวดแรกจากผู้เช่าซื้อหลังจากกำหนดเวลาตามสัญญาถึง ๗ เดือน โดยมิได้เลิกสัญญาหรือยึดรถยนต์ที่ให้เช่าซื้อคืน แสดงให้เห็นว่าผู้ร้องมิได้ถือเอากำหนดเวลาที่ผู้เช่าซื้อผิดนัดตามสัญญาเช่าซื้อเป็นสาระสำคัญของสัญญา และไม่ประสงค์จะเลิกสัญญาโดยอาศัยข้อสัญญาดังกล่าวเมื่อผู้เช่าซื้อผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้ออีกก็ไม่ปรากฏว่าผู้ร้องได้บอกเลิกสัญญา หรือติดตามยึดรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนแต่อย่างใด ผู้ร้องเพียงแต่ติดตามทวงถามค่าเช่าซื้อเท่านั้น ประกอบกับสัญญาเช่าซื้อ เอกสารหมาย ร.๔ ข้อ ๙ ได้ระบุว่าในกรณีที่ทรัพย์สินที่เช่าซื้อสูญหาย หรือเสียหายไม่ว่าโดยเหตุสุดวิสัยก็ดีหรือเหตุอื่นใดก็ดีไม่ว่าจะด้วยความประมาทเลินเล่อของผู้เช่าซื้อหรือไม่ก็ตาม ผู้เช่าซื้อตกลงจะใช้ราคาทรัพย์สินโดยเต็มจำนวนตามสัญญานี้ให้แก่เจ้าของ เป็นพฤติการณ์ที่ถือได้ว่าผู้ร้องมีเจตนาเพียงต้องการที่จะได้รับค่าเช่าซื้อตามสัญญาเท่านั้น ผู้ร้องจึงเพิกเฉยไม่บอกเลิกสัญญา ไม่ติดตามยึดรถยนต์ที่ให้เช่าซื้อคืนทั้ง ๆ ที่ผู้เช่าซื้อผิดนัดตลอดมากว่า ๒๐ งวด จนกระทั่งจำเลยนำรถยนต์คันดังกล่าวไปใช้กระทำความผิดและถูกริบในคดีนี้ ผู้ร้องจึงมาขอรถยนต์ของกลางคันดังกล่าวคืน ถือได้ว่าผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิด ผู้ร้องจึงไม่อาจที่จะขอคืนรถยนต์ของกลางได้
พิพากษากลับ ให้ยกคำร้อง.