คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 289/2531

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

เมื่อข้อเท็จจริงที่โจทก์อุทธรณ์นั้น ศาลแรงงานกลางมิได้รับฟังเป็นดังที่โจทก์อุทธรณ์ จึงเป็นการยกข้อเท็จจริงนอกเหนือจากที่ศาลแรงงานกลางรับฟังมา ศาลฎีกาไม่อาจนำข้อเท็จจริงเช่นว่านั้นมาวินิจฉัยข้อกฎหมายได้ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์ดังกล่าว โจทก์ไม่มีเวลาทำงานปกติ จะทำวันใดหรือไม่ทำวันใดก็ได้การที่โจทก์ขายสินค้าแต่ละชิ้นแล้วได้เปอร์เซ็นต์นั้น มิใช่เป็นการคำนวณค่าจ้างตามผลงาน เงินเปอร์เซ็นต์จากการขายที่โจทก์ได้รับจึงไม่ใช่เงินที่นายจ้างให้เป็นการตอบแทนการทำงานในเวลาปกติของวันทำงาน และไม่ถือว่าเป็นเงินค่าจ้าง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยจ่ายเงินทดแทน ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “โจทก์อุทธรณ์ว่า ก่อนที่โจทก์เข้าทำงานกับบริษัทซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด โจทก์ต้องยื่นใบสมัครต้องมีผู้ค้ำประกันการทำงานโจทก์ต้องรายงานผลการขายทุกสิ้นเดือน ต้องประชุมที่บริษัทซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด ทุกวันที่ 10 ของเดือน โจทก์มีสิทธิรับค่ารักษาพยาบาล มีสิทธิได้รับโบนัสภายหลังรายงานการขายแล้ว โจทก์จึงมีฐานะเป็นลูกจ้างของบริษัทซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด ศาลฎีกาเห็นว่าข้อเท็จจริงต่าง ๆตามที่โจทก์อุทธรณ์ขึ้นมานั้น ศาลแรงงานกลางมิได้รับฟังเป็นดังที่โจทก์อุทธรณ์แม้แต่ข้อเดียว อุทธรณ์ตามที่กล่าวข้างต้นจึงเป็นการยกข้อเท็จจริงนอกเหนือจากที่ศาลแรงงานกลางรับฟังมา ศาลฎีกาไม่อาจนำข้อเท็จจริงเช่นว่านั้นมาวินิจฉัยข้อกฎหมายเป็นประการใดได้ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์ข้อนี้
โจทก์อุทธรณ์อีกว่า โจทก์จะต้องขายสินค้าให้แก่บริษัทซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด ชนิดเดียวเท่านั้น จะขายสินค้าชนิดอื่นไม่ได้ โจทก์ต้องรับผิดชอบสินค้าทุกชิ้นจนกว่าลูกค้าจะผ่อนชำระค่าเช่าซื้อครบถ้วน พิเคราะห์แล้วที่ว่าโจทก์จะต้องขายสินค้าให้แก่บริษัทซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด ชนิดเดียวเท่านั้น นั้น โจทก์คงหมายเอาว่าโจทก์ต้องขายสินค้าของบริษัทซิงเกอร์ประเทศไทยจำกัด ผู้เดียวเท่านั้น จะขายสินค้าของผู้อื่นไม่ได้ ข้อนี้ เห็นว่าศาลแรงงานกลางก็มิได้ฟังข้อเท็จจริงตามที่โจทก์อุทธรณ์อีกเช่นกันศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยเป็นประการใดได้ดุจเดียวกับอุทธรณ์ข้อแรก
โจทก์อุทธรณ์อีกข้อหนึ่งว่า ค่าเปอร์เซ็นต์จากการขายและการเก็บเงินตามที่ศาลแรงงานกลางรับฟังมานั้นถือว่าเป็นค่าจ้างแล้ว ศาลฎีกาเห็นว่าโดยลักษณะเงินค่าเปอร์เซ็นต์ในคดีนี้มิใช่เป็นเงินที่บริษัทซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด จ่ายให้เป็นการตอบแทนการทำงานในเวลาทำงานปกติของวันทำงานเพราะตามข้อเท็จจริงที่ศาลแรงงานกลางรับฟังมาโจทก์ไม่มีเวลาทำงานปกติเลย โจทก์จะทำวันใดหรือไม่ทำวันใดก็ได้การขายสินค้าแต่ละชิ้นแล้วได้เปอร์เซ็นต์จากการขายมิใช่เป็นการ”คำนวณตามผลงาน” ตามความหมายของบทนิยามของคำว่า “ค่าจ้าง”ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ข้อ 2 เงินค่าเปอร์เซ็นต์ที่โจทก์ได้รับหาเป็นค่าจ้างไม่
โจทก์อุทธรณ์ข้อสุดท้ายเป็นเชิงว่า บริษัทซิงเกอร์ประเทศไทยจำกัด ได้จ่ายเงินสมทบกองทุนเงินทดแทนสำหรับโจทก์ แก่กรมแรงงานแล้วซึ่งโจทก์คงหมายความต่อไปว่า หากโจทก์ไม่เป็นลูกจ้างแล้ว เหตุใดบริษัทซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด จึงต้องจ่ายเงินสมทบกองทุนเงินทดแทนด้วย ข้อนี้ เห็นว่าศาลแรงงานกลางมิได้ฟังข้อเท็จจริงดังที่โจทก์อุทธรณ์ จึงเป็นอุทธรณ์ยกข้อเท็จจริงนอกเหนือจากที่ศาลแรงงานกลางรับฟังมาอีกเช่นกัน ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
อุทธรณ์ของโจทก์เป็นดังที่วินิจฉัยมาแล้ว การที่ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้องจึงชอบแล้ว”
พิพากษายืน

Share