คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8930/2544

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

กรณีผู้เช่าซื้อผิดสัญญาชำระค่าซื้อล่าช้ากว่าที่กำหนดไว้ในสัญญาเป็นเหตุให้ผู้เช่าซื้อมีภาระต้องชำระเบี้ยปรับให้แก่ผู้ให้เช่าซื้อตามสัญญาเช่าซื้อ การที่ผู้ให้เช่าซื้อมีหนังสือแจ้งให้ผู้เช่าซื้อชำระเบี้ยปรับพร้อมกับค่าเช่าซื้อในงวด ต่อไปเป็นการใช้สิทธิตามข้อกำหนดของสัญญาและไม่ถือว่าเป็นการลบล้างหรือสละสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อ ตามสัญญา ผู้ให้เช่าซื้อจึงยังมีสิทธิตามยึดรถคันที่เช่าซื้อคืนได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้อง ขอให้บังคับจำเลยส่งมอบรถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์ หมายเลขทะเบียน ๖ ฮ – ๔๕๒๒ กรุงเทพมหานคร และให้สัญญาเช่าซื้อมีผลต่อนับแต่วันที่ส่งมอบ หากส่งมอบไม่ได้ให้ใช้เงินแทนจำนวน ๓๓๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชดใช้เงินเสร็จ ให้ใช้ค่าเสียหายวันละ ๑,๐๐๐ บาท ไปจนกว่าจะส่งมอบหรือใช้ราคาแทน และค่าเสียหายอีกวันละ ๕๐๐ บาท จนกว่าจะจัดที่จอดรถให้ดี
จำเลยให้การว่า จำเลยมิได้เป็นฝ่ายผิดสัญญาเช่าซื้อต่อโจทก์ เนื่องจากขณะที่จำเลยใช้สิทธิบอกเลิกสัญญานั้น ก็ปรากฏว่าโจทก์ได้มอบรถคันที่เช่าซื้อให้บุคคลภายนอกครอบครองใช้สอยอันเป็นการผิดสัญญา ตามหนังสือที่แจ้งให้โจทก์นำเงินค่าปรับล่าช้าไปชำระในงวดถัดไปนั้น เป็นเพียงเอกสารแจ้งเตือนให้โจทก์ชำระหนี้ซึ่งเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่ต้องชำระไม่ว่าสัญญาจะเลิกกันหรือไม่ ดังนั้น การที่จำเลยยึดรถคันที่เช่าซื้อกลับคืนมาจึงเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นการใช้สิทธิตามสัญญา ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกา พิเคราะห์แล้วที่จำเลยมีหนังสือแจ้งให้โจทก์ชำระเบี้ยปรับพร้อมกับค่าเช่าซื้อในงวดต่อไป เป็นกรณีโจทก์ชำระค่าเช่าซื้อล่าช้ากว่าที่กำหนดไว้ในสัญญา เป็นเหตุให้โจทก์มีภาระต้องชำระเบี้ยปรับให้แก่จำเลยตามสัญญาเช่าซื้อ การใช้สิทธิของจำเลยตามสัญญาเช่าซื้อ เป็นไปตามข้อกำหนดของสัญญาและไม่ถือว่าเป็นการลบล้างหรือ สละสิทธิตามสัญญา ดังนั้น แม้จำเลยจะแจ้งให้โจทก์ชำระเบี้ยปรับแล้ว จำเลยก็ยังมีสิทธิติดตามยึดรถคันที่เช่าซื้อได้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้วฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share