คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1025/2475

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การแบ่งแยกโฉนดสำเร็จบริบูรณ์เมื่อได้เซ็นชื่อประทับตราเจ้าพนักงานเพียงแต่แบ่งแยกและขีดเส้นแผนที่หลังโฉนดยังใช้ไม่ได้ จำนองทั้งแปลงภายหลังขอแยกส่วนที่แยกต้องมีจำนองติดด้วย
วิธีพิจารณา แพ่ง ฟ้องครั้งแรกทำไม่ถูกต้องตามกฎหมายเรื่องบังคับจำนอง เมื่อทำถูกแล้วฟ้องใหม่ได้

ย่อยาว

คดีนี้ได้ความว่าจำเลยจำนองที่ดินโฉนดที่ ๕๑๘ ไว้แก่โจทก์ ภายหลังโจทก์ยอมให้จำเลยแบ่งแยกที่ดินรายจำนองให้แก่บุตร์ ๖ คนตามส่วน โดยจำเลยยอมให้บุตร์ทั้ง ๖ คนนั้นทำสัญญาจำนองที่ดินที่แบ่งตามส่วนของตนอีกขั้นหนึ่ง ครั้นเจ้าพนักงานรังวัดแบ่งแยกที่ดินและขีดเส้นแผนที่หลังโฉนดแล้ว เว้นแต่ยังไม่ได้เซ็นชื่อประทับตราเจ้าพนักงาน บุตร์จำเลยกลับไม่ยอม จำนองที่ดินตามที่ได้ตกลงกัน โจทก์จึงฟ้องขอให้บังคับจำนอง
จำเลยค้านความ ๓ ข้อ คือ (๑) การแบ่งแยกที่ดินนั้นเป็นการขาดตอนไปจากการจำนองแล้ว (๒) หนี้สินรายจำนองนี้โจทก์จำเลยได้ตกลงแปลงหนี้เป็นสัญญากู้เงินกันแล้ว และขอสืบพะยานในเรื่องแปลงหนี้ (๓) โจทก์ฟ้องคดีเรื่องนี้ครั้งหนึ่งแล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องคดีนี้อีกได้
ศาลฎีกาตัดสินว่าตามค้านข้อ ๑ นั้นเห็นว่าสัญญาจำนองคงมีอยู๋เพราะการแบ่งแยกที่ดินให้แก่บุตร์จำเลยนั้นยังทำไม่สำเร็จตาม พ.ร.บ. ออกโฉนดที่ดิน ร.ศ.๑๒๗ ม. ๓๐ ในข้อ ๒ ที่ว่าแปลงหนี้ใหม่จำเลยก็ไม่มีเอกสารมาแสดงว่าเป็นการแปลงหนี้อันเป็นหลักฐานโดยชอบด้วยกฎหมาย ที่ศาลล่างสั่งให้งดสืบพะยานในข้อนี้ชอบแล้ว ส่วนในข้อ ๓ เห็นว่าที่โจทก์ฟ้องในครั้งก่อนหมายเลขแดงที่ ๘๔/๒๔๗๔ นั้นศาลยกฟ้องโดยเหตุที่โจทก์ไม่จดหมายบอกการบังคับจำนองให้จำเลยทราบ เมื่อโจทก์ได้บอกให้จำเลยทราบแล้วก็ฟ้องบังคับจำเลยอีกได้หาเป็นการฟ้องซ้ำคดีไม่ จึงให้ยกฎีกาจำเลยเสีย บังคับให้จำเลยไถ่ถอนการจำนอง

Share