แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อจำเลยให้การรับว่าเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษฐานมียาเสพติดไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตจำคุก 1 ปี 2 เดือน โดยให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปีและภายในเวลา 5 ปี จำเลยได้มา กระทำผิดคดีนี้อีก ฉะนั้นแม้โจทก์จะมิได้บรรยายฟ้อง และมิได้ขอให้บวกโทษในคดีดังกล่าว เข้ากับคดีนี้มาท้ายฟ้องแต่ก็เป็นกรณีที่ความปรากฏ แก่ศาลตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 58 วรรคหนึ่งที่แก้ไขแล้วโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2532 มาตรา 4 ศาลจึงต้องนำโทษที่ รอการลงโทษไว้ในคดีก่อนมาบวกเข้ากับโทษของจำเลยในคดีนี้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้อาวุธมีดแทงนายอุเทน เต็มพันธ์ผู้ตายจำนวน 1 ครั้ง โดยเจตนาฆ่า ถูกบริเวณใต้ราวนมข้างซ้ายทะลุหัวใจ เป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย ก่อนคดีนี้จำเลยเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก 1 ปี 2 เดือน ฐานร่วมกันมีกัญชาและเฮโรอีนโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 296/2537ของศาลชั้นต้น ซึ่งมิใช่ความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือลหุโทษภายใน 5 ปี นับแต่วันพ้นโทษกลับมากระทำความผิดอีก ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 92 และเพิ่มโทษจำเลยตามกฎหมาย
จำเลยให้การว่า จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายจริง แต่มิได้มีเจตนาฆ่าและรับว่าเคยต้องโทษและพ้นโทษตามฟ้องจริง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 ประกอบมาตรา 69 ให้จำคุก 3 ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 1 ปี 6 เดือน คำขออื่นให้ยก
โจทก์อุทธรณ์ขอให้บวกโทษจำเลยที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อนเข้ากับโทษในคดีนี้
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาโจทก์ว่าศาลจะนำโทษจำคุกที่รอไว้ในคดีก่อนมาบวกกับโทษจำคุกของจำเลยในคดีนี้ได้หรือไม่ เห็นว่าประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 58 วรรคหนึ่งซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2532 มาตรา 4 บัญญัติไว้ว่าเมื่อความปรากฏแก่ศาลเองภายในเวลาที่ศาลกำหนดให้รอการลงโทษไว้ตามมาตรา 56ผู้ที่ถูกศาลพิพากษาได้กระทำความผิดอันมิใช่ความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ และศาลพิพากษาให้ลงโทษจำคุกสำหรับความผิดนั้น ให้ศาลที่พิพากษาคดีหลังบวกโทษที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อนเข้ากับโทษในคดีหลัง ดังนั้น เมื่อจำเลยให้การรับว่าเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษฐานมียาเสพติดไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต จำคุก 1 ปี 2 เดือน โดยให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 296/2537 ของศาลชั้นต้นและภายในเวลา 5 ปี จำเลยได้มากระทำผิดคดีนี้อีก ฉะนั้นแม้โจทก์จะมิได้บรรยายฟ้อง และมิได้ขอให้บวกโทษในคดีดังกล่าวเข้ากับคดีนี้มาท้ายฟ้อง แต่ก็เป็นกรณีที่ความปรากฏแก่ศาลตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 58 วรรคหนึ่ง ซึ่งจำเลยก็มิได้ปฏิเสธความข้อนี้ ศาลจึงต้องนำโทษที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อนมาบวกเข้ากับโทษของจำเลยในคดีนี้ตามมาตรา 58
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้นำโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 296/2537ของศาลชั้นต้น มาบวกเข้ากับโทษของจำเลยในคดีนี้ รวมเป็นโทษจำคุก2 ปี 8 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2